ประธานาธิบดีรัสเซียเดินทางไปยังเมืองฮาร์บินทางตะวันออกเฉียงเหนือ ในภารกิจวันสุดท้ายของการเยือนจีนที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการค้าผ่านพรมแดนที่ติดกัน
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย (ซ้าย) และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เข้าร่วมงานคอนเสิร์ตเนื่องในวาระครบรอบ 75 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างรัสเซียและจีน และการเปิดปีแห่งวัฒนธรรมจีน-รัสเซีย ที่ศูนย์ศิลปะการแสดงแห่งชาติในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม (Photo by Alexander RYUMIN / POOL / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม 2567 กล่าวว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนจีนอย่างเป็นทางการ ได้ใช้เวลาวันสุดท้ายในการปฏิบัติภารกิจที่เมืองฮาร์บินทางตะวันออกเฉียงเหนือ
การเยือนของปูตินถือเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกนับตั้งแต่ได้รับฉันทามติให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัยในเดือนมีนาคม โดยได้พบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เพื่อหารือกรอบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในฐานะพันธมิตรและเกราะป้องกันความขัดแย้งกับชาติตะวันตก
ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของจีนและรัสเซียใกล้ชิดกันมากขึ้นนับตั้งแต่เกิดสงครามในยูเครน และรัฐบาลปักกิ่งได้ปฏิเสธข้อกล่าวอ้างของชาติตะวันตกที่ว่ากำลังช่วยเหลือรัสเซียให้สู้รบกับยูเครน
จีนยังเสนอเส้นทางชีวิตที่สำคัญให้กับเศรษฐกิจโดดเดี่ยวของรัสเซีย โดยการค้าระหว่างสองชาติเฟื่องฟูมาตลอดนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้น และมีมูลค่าถึง 240,000 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 8.7 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2566 ตามตัวเลขของศุลกากรจีน
การเดินทางไปฮาร์บินของปูตินเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจดังกล่าว
เมืองแห่งนี้อยู่ห่างจากชายแดนติดกับรัสเซียเพียงไม่กี่ร้อยกิโลเมตร และเป็นศูนย์กลางสำคัญสำหรับการค้าข้ามพรมแดนและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมมายาวนาน ซึ่งประธานาธิบดีรัสเซียจะมาเข้าร่วมพิธีเปิดงานแสดงสินค้าการค้ารัสเซีย-จีน และจัดงานแถลงข่าวกับสื่อรัสเซียในวันเดียวกัน
การมาถึงของผู้นำรัสเซียเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เขายกย่องกองทหารของประเทศที่สามารถรุกคืบ "ทุกด้าน" ในสนามรบยูเครน โดยอ้างอิงการรุกภาคพื้นดินครั้งใหม่
ขณะเดียวกัน ประเทศตะวันตกต่างกดดันจีนให้ตัดการสนับสนุนเศรษฐกิจของรัสเซีย
หลังจากที่สหรัฐให้คำมั่นว่าจะคว่ำบาตรทุกสถาบันการเงินที่อำนวยความสะดวกแก่รัฐบาลมอสโก การส่งออกของจีนไปยังรัสเซียก็ลดลงในเดือนมีนาคมและเมษายนทันที จากยอดที่เคยเพิ่มสูงช่วงต้นปี
ในแถลงการณ์ต่อสื่อหลังการเจรจากับปูติน สี จิ้นผิงกล่าวว่าทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันเกี่ยวกับความจำเป็นสำหรับการแก้ปัญหาทางการเมืองเพื่อคลี่คลายสงคราม ซึ่งหมายถึงการสนับสนุนให้เกิดการจัดประชุมสันติภาพระหว่างประเทศที่รัสเซียและยูเครน.