นายกฯ สโลวาเกียอาการทรงตัว เฝ้าระวังใกล้ชิด มือปืนเป็นนักเขียนฝักใฝ่การเมือง

อาการบาดเจ็บจากการถูกลอบยิงของนายกรัฐมนตรีสโลวาเกีย อยู่ในสภาวะทรงตัวตลอดคืนที่ผ่านมา แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด ขณะที่ผู้ก่อเหตุลอบยิงถูกเผยตัวตนว่าเป็นนักเขียนที่ฝักใฝ่การเมือง

โรเบิร์ต คาลินัก รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหมสโลวาเกีย (เสื้อขาวทางซ้าย) กล่าวในการแถลงข่าวที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย FD Roosevelt ในเมืองบันสกาบิสตรีตซา ซึ่งนายกรัฐมนตรีโรเบิร์ต ฟิโก เข้ารับการผ่าตัดหลังถูกลอบยิงในเมืองฮันด์โลวา เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม (Photo by AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม 2567 กล่าวว่า จากเหตุนายกรัฐมนตรีโรเบิร์ต ฟิโก ของสโลวาเกีย ถูกคนร้ายลอบยิงที่เมืองฮันด์โลวา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงบราติสลาวา จนอาการสาหัสถึงชีวิต

หลังได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนโดยทีมแพทย์ของโรงพยาบาลในเมืองบันสกาบิสตรีตซา อาการบาดเจ็บล่าสุดของเขาถูกเปิดเผยว่าอยู่ในสภาวะทรงตัว แต่ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด

"อาการของนายกรัฐมนตรีฟิโกอยู่ในสภาวะทรงตัวชั่วข้ามคืนที่ผ่านมา แต่ยังคงอันตรายอยู่ เนื่องจากอาการบาดเจ็บมีความซับซ้อน" โรเบิร์ต คาลินัก รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหมกล่าว

ขณะที่มีการเปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นของผู้ลอบยิงที่ถูกจับกุมไว้ได้ทันทีในที่เกืดเหตุ โดยเขาเป็นนักเขียนวัย 71 ปี ผู้ก่อตั้งชมรมวรรณกรรม DUHA และมาจากเมืองเลวิซ

เขายังเคยประพันธ์คอลเลกชันบทกวี 3 ชุด และเป็นสมาชิกของสมาคมนักเขียนสโลวักอย่างเป็นทางการ

สมาคมนักเขียนฯยืนยันผ่านเฟซบุ๊กว่า ชายคนนี้เป็นสมาชิกมาตั้งแต่ปี 2558 พร้อมเสริมว่าหากเขาถูกดำเนินคดีอย่างเป็นทางการในฐานะผู้ก่อเหตุลอบยิงนายกฯแล้ว สถานภาพการเป็นสมาชิกจะถูกยกเลิกทันที

ทั้งนี้ ชายคนดังกล่าวเคยแสดงความเห็นทางการเมืองหลายครั้งผ่านโซเชียลมีเดีย

"โลกเต็มไปด้วยความรุนแรงและอาวุธ ผู้คนดูเหมือนจะบ้าคลั่งไปกันหมด" เขากล่าวในวิดีโอที่โพสต์ทางออนไลน์เมื่อ 8 ปีที่แล้ว

ในวิดีโอ เขายังกล่าวถึงความกังวลเกี่ยวกับการอพยพเข้าเมือง, ความเกลียดชัง และแนวคิดสุดโต่งต่อประเด็นดังกล่าว พร้อมกล่าวว่าชาติยุโรปไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมก้มหัวให้กับความวุ่นวายเหล่านี้

นอกจากนี้เขายังกล่าวในวิดีโอว่าเขาได้ก่อตั้งขบวนการต่อต้านความรุนแรงในเมืองเลวิซอีกด้วย โดยขบวนการดังกล่าวให้คำนิยามตัวเองบนแพลทฟอร์มออนไลน์ว่าเป็น "พรรคการเมืองเกิดใหม่ที่มีเป้าหมายเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของความรุนแรงในสังคม, เพื่อป้องกันสงครามในยุโรปและการแพร่กระจายของความเกลียดชัง".