นายกรัฐมนตรีของสโลวาเกียกำลังต่อสู้กับบาดแผลสาหัสที่อันตรายถึงชีวิต หลังถูกลอบยิงหลายครั้งโดยคนร้ายที่ถูกจับกุมไว้ได้ในที่เกิดเหตุ คาดแรงจูงใจจากการเมือง
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกำลังอุ้มนายกรัฐมนตรีโรเบิร์ต ฟิโก ของสโลวาเกีย (กลาง) ไปชึ้นรถยนต์ หลังจากที่เขาถูกลอบยิงที่เมืองฮันด์โลวา เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม (Photo by RTVS / AFP)
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจับกุมผู้ต้องสงสัยลอบสังหาร (นั่งบนพื้น) หลังจากที่นายกรัฐมนตรีโรเบิร์ต ฟิโก ของสโลวาเกียถูกยิงที่เมืองฮันด์โลวา เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม (Photo by RTVS / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 15 พฤษภาคม 2567 กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีโรเบิร์ต ฟิโก ของสโลวาเกีย ถูกคนร้ายลอบยิงที่เมืองฮันด์โลวา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงบราติสลาวา จนอาการสาหัสถึงชีวิต
เขาถูกยิงขณะเดินออกมาจากอาคารหลังเสร็จสิ้นการประชุมที่เมืองดังกล่าว และถูกคนร้ายชายรายหนึ่งยิงปืนใส่หลายนัด ก่อนตำรวจเข้ารุมจับกุมคนร้ายไว้ได้ด้วยความทุลักทุเลในที่เกิดเหตุ
สื่อสโลวักรายงานว่า นักข่าวในเมืองฮันด์โลวาได้ยินเสียงปืนยิงหลายนัด จากนั้นก็เห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรีบอุ้มตัวนายกรัฐมนตรีฟิโกขึ้นจากพื้นและนำขึ้นรถเพื่อส่งตัวไปรักษา
ล่าสุดอาการบาดเจ็บของเขาถูกแพทย์วินิจฉัยว่าอยู่ในอาการวิกฤตที่เป็นอันตรายถึงชีวิต
โฆษกรัฐบาลระบุในโพสต์บนโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับเหตุลอบสังหารครั้งนี้ว่า "วันนี้ หลังจากการประชุมของคณะรัฐบาลในเมืองฮันด์โลวา มีความพยายามลอบสังหารนายกรัฐมนตรีโรเบิร์ต ฟิโก"
"เขาถูกส่งตัวจากฮันด์โลวาโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังเมืองบันสกาบิสตรีตซาในสภาพที่เป็นอันตรายถึงชีวิต" คำแถลงระบุ
ฟิโกเป็นนายกรัฐมนตรี 4 สมัยและเพิ่งได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว เขาเป็นนักการเมืองที่ถูกกล่าวหาว่าผลักดันนโยบายต่างประเทศเพื่อสนับสนุนรัสเซีย
ปีเตอร์ เปลเลกรีนี ที่เพิ่งได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสโลวาเกียกล่าวว่า เขาทราบข่าวเกี่ยวกับเหตุลอบยิงดังกล่าวแล้ว และรู้สึกหวาดหวั่นหัวใจกับความอุกอาจนี้
"ความพยายามลอบสังหารเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งตามรัฐธรรมนูญถือเป็นภัยคุกคามต่อระบอบประชาธิปไตยของสโลวักอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน" เขาแสดงความคิดเห็นผ่านโซเชียลมีเดีย
บรรดาผู้นำโลกต่างร่วมประณามเหตุครั้งนี้ โดยประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนกล่าวว่า "เราขอประณามการกระทำรุนแรงนี้อย่างยิ่ง ทุกฝ่ายควรทำทุกวิถีทางเพื่อให้แน่ใจว่าความรุนแรงจะไม่กลายเป็นบรรทัดฐานในประเทศใดๆ ก็ตาม"
ขณะที่นายกรัฐมนตรีรีชี ซูนัค ของอังกฤษ กล่าวว่าเขาตกใจมากที่ได้ยินข่าวร้ายนี้ เช่นเดียวกับประธานาธิบดีลิทัวเนีย, นายกรัฐมนตรีเช็ก และนายกรัฐมนตรีโปแลนด์ ที่แสดงความตกใจและเสียใจกับชะตากรรมของฟิโก พร้อมอวยพรให้เขาปลอดภัยและฟื้นตัวโดยเร็ว
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ฟิโกได้แสดงความคิดเห็นหลายครั้งที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสโลวาเกียและยูเครนเกิดความเสียหาย
เขาได้ตั้งคำถามต่ออธิปไตยของยูเครนและเรียกร้องให้มีการประนีประนอมกับรัสเซียซึ่งเป็นฝ่ายรุกราน
จากนั้นสโลวาเกียก็หยุดส่งอาวุธไปยังยูเครนตามที่เขาได้ให้คำมั่นในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งไว้ว่าจะไม่มอบกระสุนแม้แต่นัดเดียวให้รัฐบาลเคียฟ
นอกจากนี้ เขายังเป็นชนวนการประท้วงครั้งใหญ่จากความพยายามเปลี่ยนแปลงกฎหมายสื่อ ซึ่งนักวิจารณ์กล่าวว่าจะบ่อนทำลายความเป็นกลางของโทรทัศน์และวิทยุสาธารณะ
แม้จะยังไม่มีผลการสอบสวนแรงจูงใจในการก่อเหตุ แต่แถลงข่าวหลังเหตุกราดยิงดังกล่าว ส.ส. ลูบอส บลาฮาจากพรรคของฟิโก ได้ออกมาโจมตีผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ฟิโกอย่างเสียๆหายๆ
"พวกคุณ, สื่อเสรีนิยม และนักการเมืองหัวก้าวหน้าต้องถูกตำหนิ การที่โรเบิร์ต ฟิโกต้องมาต่อสู้เพื่อรักษาชีวิตตนเองไว้เป็นพราะความเกลียดชังของพวกคุณ" บลาฮากล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หน่วยข่าวกรองทหารของยูเครนเผย เคยมีแผนลอบสังหาร ‘ปูติน’ หลายครั้งแล้ว
ตามรายงานข่าวกรองทางทหารของยูเครน พบว่ามีการพยายามลอบสังหารประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียหลายครั้งแล้ว “แต่อย่างที่คุณเห็น พวกเขาทำไม่สำเร็จ” นายพลคิริโล บูดานอฟ-หัวหน้าหน่วยข่าวกรองทหาร กล่า