ปูตินสาบานตนประธานาธิบดีสมัยที่ 5 ให้คำมั่นคว้าชัยชนะในยูเครน

วลาดิมีร์ ปูตินทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 5 พร้อมให้คำมั่นว่าจะนำชัยชนะมาสู่รัสเซีย

วลาดิมีร์ ปูตินร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซีย ที่พระราชวังเครมลินในกรุงมอสโก เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม (Photo by Sergei BOBYLYOV / POOL / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 7 พฤษภาคม 2567 กล่าวว่า วลาดิมีร์ ปูตินสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซียสมัยที่ 5 ในพิธีที่จัดขึ้นอย่างหรูหราในกรุงมอสโก

ผู้นำรัสเซียวัย 71 ปี ปกครองประเทศมาตั้งแต่ช่วงเปลี่ยนศตวรรษ โดยได้รับฉันทามติให้ครองอำนาจต่อไปอีก 6 ปี หลังชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างถล่มทลายในเดือนมีนาคม โดยปราศจากการเข้าร่วมของฝ่ายค้าน

พิธีสาบานตนรับตำแหน่งถูกจัดขึ้นอย่างเป็นทางการ ซึ่งรวมถึงการตั้งขบวนทหารและพิธีสวดภาวนาออร์โธดอกซ์ที่ได้รับการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์หลักๆ ของรัสเซีย โดยไม่มีประเทศในยุโรป เช่น โปแลนด์, เยอรมนี และสาธารณรัฐเช็ก ส่งผู้แทนเข้าร่วม เนื่องมาจากความตึงเครียดอันเลวร้ายจากความขัดแย้งในยูเครน

ปูตินกล่าวสุนทรพจน์ยอมรับว่า รัสเซียกำลังเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบาก จากมาตรการคว่ำบาตรอย่างหนักของนานาชาติตั้งแต่เริ่มการรุกรานยูเครนเมื่อสองปีก่อน

"เราเป็นชาติที่มีเอกภาพและยิ่งใหญ่ เราจะเอาชนะอุปสรรคทั้งหมด, บรรลุทุกสิ่งที่เราวางแผนไว้ และจะชนะไปด้วยกัน" ผู้นำรัสเซียกล่าวปลุกใจหลังสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง

ปูตินกล่าวว่ากองกำลังของเขาจะได้รับชัยชนะในยูเครนแน่นอนไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม และเชื่อว่ารัสเซียจะกลับมาผงาดอย่างมีศักดิ์ศรีและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ปูตินยังได้เข้ารับพรจากพระสังฆราชคีริลล์ ซึ่งเป็นผู้นำคริสตจักรออร์โธดอกซ์รัสเซีย

"ขอพระเจ้าช่วยให้คุณปฏิบัติตามภาระจำยอมที่พระองค์เองทรงมอบไว้ให้กับคุณต่อไป" ผู้นำออร์โธดอกซ์กล่าว พร้อมอำนวยพรให้เขาปกครองรัสเซียไปชั่วนิรันดร์ ซึ่งปูตินกล่าวรับว่าการได้รับใช้รัสเซียถือเป็นเกียรติ, ความรับผิดชอบ และหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง

พิธีสิ้นสุดเมื่อปูตินได้รับเสียงปรบมือจากเจ้าหน้าที่รัสเซียและทหารระดับสูงของกองทัพ ซึ่งร่วมร้องเพลงชาติเพื่อแสดงความให้เกียรติต่อตัวเขา

ทั้งนี้ พิธีสาบานตนเกิดขึ้นสองวันก่อนที่รัสเซียจะเฉลิมฉลองวันแห่งชัยชนะในวันที่ 9 พฤษภาคม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพิธีสำคัญของประเทศ

จากนี้ปูตินจะเริ่มต้นวาระใหม่ของเขาด้วยความก้าวหน้าของสนามรบในยูเครนและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน แม้ว่าจะถูกคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกก็ตาม

ชัยชนะถล่มทลายในสนามเลือกตั้งเดือนมีนาคมของปูติน ทำให้เขามีแนวโน้มที่จะกลายเป็นผู้ปกครองรัสเซียที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในรอบศตวรรษ โดยเอาชนะโจเซฟ สตาลิน อดีตผู้นำเผด็จการโซเวียต

การสู้รบกับยูเครนกำลังยืดเยื้อเข้าสู่ปีที่สามโดยไม่มีข้อยุติที่ชัดเจน ทำให้ปัญหาเศรษฐกิจเริ่มเป็นประเด็นที่เดือดกว่าสำหรับปูตินที่ต้องเผชิญกับความท้าทายสำคัญในระยะที่ 5 ของเขา และอาจเริ่มที่ความเปลี่ยนแปลงในคณะรัฐบาลชุดปัจจุบัน.