ปลาหลายแสนตัวลอยตายในอ่างเก็บน้ำของจังหวัดด่งนาย ทางตอนใต้ของเวียดนาม อันเนื่องมาจากภาวะคลื่นความร้อนที่รุนแรง
ชาวประมงกำลังเก็บซากปลาที่ตายเพราะสภาพอากาศร้อนอย่างต่อเนื่อง ในอ่างเก็บน้ำของจังหวัดด่งนาย ทางตอนใต้ของเวียดนาม เมื่อวันที่ 30 เมษายน (Photo by AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม 2567 กล่าวว่า ภาวะอากาศร้อนจัดอย่างต่อเนื่องในเวียดนามทำให้ปลาหลายแสนตัวลอยตายในอ่างเก็บน้ำของจังหวัดด่งนาย ทางตอนใต้ของเวียดนาม
"ปลาในอ่างเก็บน้ำซองเมย์ทั้งหมดตายเพราะอุณหภูมิน้ำร้อนขึ้นและระเหยจนลดปริมาณอย่างรวดเร็ว" ชาวบ้านในท้องถิ่นของอำเภอตรังบอม กล่าวกับเอเอฟพี
"นอกจากสูญเสียรายได้และแหล่งอาหารแล้ว ซากปลาตายจำนวนมหาศาลส่งกลิ่นเหม็นจนรบกวนชีวิตประจำวันของพวกเราในช่วง 10 วันที่ผ่านมา" เขากล่าว
ปัจจุบัน อ่างเก็บน้ำซองเมย์ขนาด 300 เฮกตาร์ (ประมาณ 1,875 ไร่) ถูกปกคลุมด้วยซากปลาตายจำนวนมากจนแทบมองไม่เห็นผิวน้ำ โดยการประเมินเบื้องต้นปลาที่ตายทั้งหมดอาจมากถึง 200 ตัน
ตามรายงานของสื่อ พื้นที่ดังกล่าวไม่มีฝนตกมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว และระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำก็ต่ำเกินไปสำหรับสิ่งมีชีวิตที่จะอยู่รอดได้ แถมยังต้องแบ่งปันน้ำไปใช้ในการรักษาชีวิตพืชผลบริเวณท้ายน้ำอีกด้วย
ทางการกำลังสอบสวนเหตุการณ์ปลาลอยตายเกลื่อนในครั้งนี้ ขณะเดียวกันก็เร่งนำซากปลาออกจากอ่างเก็บน้ำให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ ด่งนายเป็นจังหวัดที่ใช้ที่ดินเพื่อการเกษตรมากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเวียดนาม
อุณหภูมิล่าสุดในด่งนายซึ่งอยู่ห่างจากนครโฮจิมินห์ไปทางตะวันตก 100 กิโลเมตร สูงถึง 40 องศาเซลเซียสในเดือนเมษายน ทำลายสถิติอุณหภูมิสูงที่สุดที่บันทึกไว้ในปี 2541 ตามรายงานของหน่วยงานพยากรณ์อากาศ
นอกจากนี้ เวียดนามตอนใต้และตอนกลางก็ถูกคลื่นความร้อนทำลายล้างเช่นเดียวกับพื้นที่อื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่โรงเรียนถูกบังคับให้ปิดเร็วขึ้นและมีการบริโภคปริมาณไฟฟ้ามากขึ้น
อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นยังส่งผลกระทบต่อประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา ซึ่งอาจแตะระดับ 43 องศาเซลเซียสเร็วๆนี้
เมื่อวันพุธ นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ออกคำสั่งให้สถานศึกษาพิจารณายกเลิกชั้นเรียน เพื่อปกป้องครูและนักเรียนจากอากาศร้อนจัด และให้เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมในกรณีขาดแคลนน้ำ
คำสั่งดังกล่าวสอดคล้องกับประกาศของกระทรวงศึกษาธิการเมื่อวันอังคารที่เรียกร้องสถานศึกษาต่างๆ ให้ลดเวลาเรียนภาคเช้าและเลื่อนชั้นเรียนช่วงบ่ายออกไป เพื่อหลีกเลี่ยงความร้อนที่เลวร้ายที่สุดในตอนกลางวัน
กระทรวงฯกล่าวว่า รัฐบาลต้องการป้องกันความเสี่ยงและหลีกเลี่ยงการเจ็บป่วยที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของทั้งครูและนักเรียน.