ฝนตกหนักในบราซิล เสียชีวิต 10 ราย สูญหาย 21 คน

มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 10 รายเพราะน้ำท่วมที่เกิดจากฝนตกหนักทางตอนใต้ของบราซิล ขณะที่หน่วยกู้ภัยเร่งค้นหาผู้สูญหายอีก 21 คน

ถนนที่ถูกน้ำท่วมหลังจากฝนตกหนักในเมือง Encantado รัฐรีโอกรันดีโดซูล ทางตอนใต้ของบราซิล เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 รายและสูญหาย 21 คน (Photo by Gustavo Ghisleni / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม 2567 กล่าวว่า เกิดเหตุน้ำท่วมในรัฐรีโอกรันดีโดซูล ทางตอนใต้ของบราซิล ส่งผลให้มีผู้พลัดถิ่นประมาณ 3,300 คนในเขตเทศบาลมากกว่า 100 แห่ง โดยส่วนใหญ่ต้องไปอาศัยชั่วคราวที่ศูนย์พักพิง

ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ประกาศว่าเขาจะลงพื้นที่น้ำท่วมดังกล่าวด้วยตัวเอง เนื่องจากประเมินแล้วว่าน้ำท่วมครั้งนี้อาจเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐรีโอกรันดีโดซูล

ทางการท้องถิ่นรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 10 ราย และมีผู้สูญหายอีกราว 21 คนซึ่งหน่วยกู้ภัยกำลังเร่งค้นหา แม้สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยเนื่องจากฝนยังตกหนัก ขณะที่บางพื้นที่มีรายงานน้ำท่วมสูงเกินกว่า 2 เมตร ทำให้ยากต่อการช่วยเหลือ

นอกจากนี้ ยังมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 11 คน และอีกเกือบ 20,000 คนได้รับผลกระทบในรูปแบบอื่นๆ จากน้ำท่วม

ทั้งนี้ ฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องได้ทำลายสะพานและท่วมถนน ส่งผลให้ชุมชนหลายแห่งในรัฐถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง อันนำมาซึ่งวิกฤตขาดแคลนน้ำดื่มและอาหาร อีกทั้งบริการโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตก็ใช้งานไม่ได้ในเขตเทศบาลอย่างน้อย 60 แห่ง

ทางการได้เรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงพื้นที่ตามทางหลวงของรัฐเนื่องจากเสี่ยงต่อการเกิดดินโคลนถล่ม และผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำหรือบนเนินเขาควรเร่งอพยพออกจากพื้นที่

กาเบรียล ซูซา รองผู้ว่าการรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ความเสียหายจากภัยพิบัติครั้งนี้อาจมากถึง 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 740 ล้านบาท)

สภาพอากาศที่ยังคงเลวร้ายได้ขัดขวางความพยายามช่วยเหลือ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก และยอดผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เนื่องจากแม่น้ำในภูมิภาคนี้ยังคงมีปริมาณน้ำมากจากการเผชิญพายุและฝนตกหนักเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 รายในรัฐรีโอเดจาเนโรและเอสปิริตูซังตู ดังนั้นฝนที่ตกหนักในคราวนี้จึงทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างรวดเร็วเกินตั้งรับทัน

ประเทศที่ใหญ่ที่สุดของทวีปอเมริกาใต้ต้องเผชิญกับเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่ามีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทำให้เกิดน้ำท่วมในฤดูหนาวและคลื่นความร้อนจัดในฤดูร้อน.