เหตุความรุนแรงจากอาวุธมีดครั้งใหม่เกิดขึ้นที่โบสถ์แห่งหนึ่งในซิดนีย์เมื่อวันจันทร์ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 4 คน และจุดชนวนให้เกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจปราบจลาจลและสมาชิกในชุมชนท้องถิ่นที่มีความโกรธเคืองผู้ก่อเหตุแทงบาทหลวง
กลุ่มคนจากชุมชนในพื้นที่มารวมตัวกันนอกโบสถ์คริสต์เดอะกู๊ดเชพเพิร์ด ในเขตเวคลีย์ทางตะวันตกของซิดนีย์ เมื่อวันที่ 15 เมษายน หลังเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงบาทหลวงในโบสถ์ดังกล่าว (Photo by DAVID GRAY / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 15 เมษายน 2567 กล่าวว่า เหตุความรุนแรงจากอาวุธมีดครั้งใหม่เกิดขึ้นที่โบสถ์คริสเตียนอัสซีเรียทางตะวันตกของซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย โดยผู้ก่อเหตุชายวัย 15 ปี บุกใช้มีดแทงบาทหลวงที่ทำพิธีทางศาสนาบนเวที
การปฏิบัติศาสนกิจในโบสถ์ดังกล่าวถูกถ่ายทอดสดผ่านทางออนไลน์ในขณะที่มีการก่อเหตุทำร้ายบิชอปมาร์ มารี เอมมานูเอล และหลังจากนั้นชายผู้ก่อเหตุแทงบาทหลวงก็ถูกศาสนิกชนที่มาร่วมพิธีช่วยกันจับกุมตัวเอาไว้ได้
บาทหลวงคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บแต่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต เช่นเดียวกับผู้ก่อเหตุวัย 15 ปีที่บาดเจ็บในช่วงการจับกุม
ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุหลังจากนั้น และควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปดำเนินคดี แต่ภาพความรุนแรงที่ถูกถ่ายทอดสดออกไปได้กระตุ้นให้เกิดความรุนแรงในชุมชน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายได้รับบาดเจ็บไปด้วย หลังจากสมาชิกชุมชนท้องถิ่นหลายร้อยคนมารวมตัวกันนอกโบสถ์ดังกล่าวด้วยความโกรธแค้นและพยายามฝ่าแนวกั้นของกลุ่มตำรวจปราบจลาจลเพื่อไปทำร้ายผู้ก่อเหตุ
มีรายงานการปะทะระหว่างตำรวจและผู้มาชุมนุมที่เขวี้ยงปาข้าวของใส่เจ้าหน้าที่ที่สวมเสื้อเกราะกันกระสุนและใช้โล่ปราบจลาจลผลักดันผู้มาชุมนุมให้ออกจากพื้นที่เกิดเหตุ
แอนดรูว์ ฮอลแลนด์ รักษาการผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าวว่า กลุ่มคนที่มาชุมนุมถูกกระตุ้นจากสิ่งที่เกิดขึ้นในโบสถ์ โดยการเผยแพร่ข่าวลือเกินจริงทางอินเทอร์เน็ต
นอกจากตำรวจได้รับบาดเจ็บแล้ว ยังมีรถตำรวจอีก 2 คันและบ้านเรือนจำนวนหนึ่งได้รับความเสียหายจากการถูกผู้ประท้วงขว้างปาขวด, อิฐ และสิ่งของอื่นๆ เข้าใส่
ตำรวจนายหนึ่งถูกตีด้วยวัตถุที่เป็นโลหะจนทำให้เข่าบิดและฟันบิ่น ขณะที่ตำรวจอีกนายหนึ่งขากรรไกรและฟันหักเพราะโดนก้อนอิฐกระแทกใส่
ตำรวจเรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงพื้นที่ดังกล่าว และระดมกำลังเสริมมาเพิ่มเติมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงลุกลาม
ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบวิดีโอการโจมตีเมื่อวันจันทร์และพบว่าถ่ายที่โบสถ์คริสต์เดอะกู๊ดเชพเพิร์ด ซึ่งมีผู้ติดตามออนไลน์เกือบ 200,000 คน
โบสถ์ดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตเวคลีย์ซึ่งเป็นศูนย์กลางของชุมชนคริสเตียนอัสซีเรียเล็กๆ บริเวณชานเมืองทางตะวันตกของซิดนีย์
คริส มินส์ ผู้ว่าการรัฐนิวเซาท์เวลส์ ออกแถลงการณ์ร่วมกับผู้นำชาวคริสต์และมุสลิม เรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในความสงบ
"เราขอเรียกร้องให้ทุกคนปฏิบัติตนด้วยความเมตตาและเคารพซึ่งกันและกัน ตอนนี้เป็นเวลาที่จะแสดงให้เห็นว่าเราเข้มแข็งและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน" ถ้อยแถลงระบุ
โซเชียลมีเดียต่างคาดเดาแรงจูงใจในการก่อเหตุ แต่ตำรวจก็ยังไม่ได้ยืนยันข้อมูลดังกล่าวแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ชาวอัสซีเรียสืบเชื้อสายมาจากอาณาจักรที่ปกครองดินแดนตะวันออกกลางโบราณ และต้องเผชิญกับการข่มเหงในฐานะชนกลุ่มน้อยทางศาสนาและชาติพันธุ์ที่แตกต่างจากชนกลุ่มใหญ่ชาวอาหรับและมุสลิมในภูมิภาค และชุมชนบริเวณโบสถ์ที่เกิดเหตุล้วนเป็นกลุ่มชนอัสซีเรียที่หลบหนีจากการกดขี่ข่มเหงและการทำสงครามในอิรักและซีเรีย
เหตุความรุนแรงล่าสุดนี้เกิดขึ้นให้หลังเหตุคนร้ายไล่แทงคนจนเสียชีวิต 6 รายที่ศูนย์การค้าเวสต์ฟิลด์ บอนดิ จังก์ชั่น ในซิดนีย์เมื่อ 2 วันก่อน ซึ่งชาวออสเตรเลียยังคงอยู่ในช่วงไว้อาลัยอยู่เลย จนมาเกิดเหตุอุกอาจซ้ำอีก แม้จะไม่มีผู้เสียชีวิตก็ตาม.