ผู้คนในออสเตรเลียร่วมยืนสงบนิ่งในช่วงเย็นวันอาทิตย์ เพื่อไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิต 6 รายจากเหตุคนร้ายป่วยทางจิตใช้อาวุธมีดทำร้ายที่ศูนย์การค้าเวสต์ฟิลด์ บอนดิ จังก์ชั่นในซิดนีย์
นายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบานีส ของออสเตรเลีย (กลาง) ยืนเคียงข้างคริส มินส์ ผู้ว่าการรัฐนิวเซาท์เวลส์ (ที่ 3 จากขวา) และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ขณะยืนไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิต ด้านนอกศูนย์การค้าเวสต์ฟิลด์ บอนดิ จังก์ชั่น ในนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 14 เมษายน หลังเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดไล่แทงผู้คนเสียชีวิต 6 ราย (Photo by DAVID GRAY / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน 2567 กล่าวว่า เหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดไล่แทงผู้คนในศูนย์การค้าเวสต์ฟิลด์ บอนดิ จังก์ชั่น ในนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ทางการอัพเดทยอดผู้เสียชีวิตที่ 6 ราย โดยผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นชายท้องถิ่นที่มีประวัติป่วยทางจิต ถูกตำรวจยิงวิสามัญในที่เกิดเหตุ
ผู้คนจำนวนมากเดินทางมาร่วมไว้อาลัยอย่างเงียบๆ ด้านนอกศูนย์การค้าดังกล่าวที่โจเอล คออูชี วัย 40 ปี ก่อเหตุไล่แทงผู้คนอย่างไม่เลือกหน้าเมื่อบ่ายวันเสาร์
ตำรวจซิดนีย์กล่าวว่า ผู้หญิง 5 รายและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชาวปากีสถาน 1 รายเสียชีวิตจากความบ้าคลั่งดังกล่าวซึ่งกินเวลานานประมาณครึ่งชั่วโมง จนกระทั่งตำรวจหญิงนายหนึ่งหยุดผู้ก่อเหตุด้วยกระสุนปืน
ตำรวจหญิงเอมี สก็อตต์ได้รับการยกย่องจากนายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบานีส ของออสเตรเลียว่าเป็นบุคคลที่ใช้ความกล้าหาญในการช่วยชีวิตผู้คน
บรรดาผู้บริสุทธิ์ที่ต้องสังเวยชีวิตจากการกระทำของคนร้าย มีทั้งนักออกแบบ, อาสาสมัครช่วยชีวิตนักโต้คลื่น, ลูกสาวของนักธุรกิจ และคุณแม่มือใหม่ที่ลูกน้อยวัย 9 เดือนของเธอยังรักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยบาดแผลถูกแทงสาหัส
เมื่อค่ำวันอาทิตย์ มีกลุ่มคนประมาณ 40 คนจากสมาคมมุสลิมในท้องถิ่นได้นำดอกไม้มาร่วมวางไว้อาลัยด้านนอกศูนย์การค้า เพื่อระลึกถึงฟาราซ ตาฮีร์ วัย 30 ปี ที่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชาวปากีสถาน
พวกเขายืนสงบนิ่งสักครู่, ประสานมือ, ก้มศีรษะ, สวดมนต์ และจับจ้องไปที่ดอกไม้ด้วยน้ำตาเอ่อล้น
แม้จะมีข่าวลือทางโซเชียลมีเดียในช่วงแรกๆ ที่เชื่อมโยงการโจมตีดังกล่าวกับเหตุการณ์ต่างๆ ในตะวันออกกลางอย่างไม่ถูกต้อง แต่แอนโทนี คุก ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจนิวเซาท์เวลส์กล่าวย้ำว่า ไม่มีหลักฐานที่แสดงว่าคนร้ายก่อเหตุด้วยแรงจูงใจหรืออุดมการณ์ใดๆ
พ่อแม่ของคนร้ายกล่าวในแถลงการณ์ด้วยความเจ็บปวด และแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและครอบครัว พร้อมยอมรับว่าการกระทำของลูกชายเป็นเรื่องที่ร้ายแรงจริงๆ นอกจากนี้ยังส่งข้อความถึงตำรวจหญิงที่ยิงสังหารลูกชายของพวกเขาว่าเธอทำหน้าที่ได้ดีแล้วในการปกป้องชีวิตผู้บริสุทธิ์
ข้อมูลเชิงลึกระบุว่า โจเอล คออูชีเดินทางจากเมืองเล็กๆใกล้บริสเบนไปยังซิดนีย์เมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่แล้ว และเช่าห้องเก็บของเล็กๆ ไว้เก็บข้าวของส่วนตัว
เขาอาศัยอยู่ในหอพักแห่งหนึ่ง และนานๆทีจะติดต่อกับครอบครัวผ่านการส่งข้อความ
ทั้งนี้ คนร้ายได้รับการวินิจฉัยว่ามีปัญหาสุขภาพจิตตั้งแต่อายุ 17 ปี และรอยสักมังกรสีเทา, แดง และเหลืองอันเป็นเอกลักษณ์บนแขนขวา ถูกนำมาใช้ในการระบุตัวตนของเขาหลังการเสียชีวิต.
