นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หญิงชาวเวียดนามเผชิญโทษประหารชีวิตจากคำตัดสินของศาล จากคดีที่เธอและผู้ถูกกล่าวหาร่วมถูกจับกุมในข้อหาคอร์รัปชันครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ด้วยค่าเสียหายราว 27,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เจือง มี ลัน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หญิงชาวเวียดนาม (กลาง) รับฟังการพิจารณาคดีคอร์รัปชันครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ประเทศ ที่ศาลในนครโฮจิมินห์ เมื่อวันที่ 11 เมษายน (Photo by AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน 2567 กล่าวว่า เจือง มี ลัน นักธุรกิจหญิงและประธานบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของเวียดนาม ถูกศาลพิพากษาประหารชีวิตจากคดีคอร์รัปชันครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ประเทศ ด้วยค่าเสียหายราว 27,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9.88 แสนล้านบาท)
ประธานหญิงของบริษัท 'วาน ติง พัท' ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงเงินสดจากธนาคารไซง่อนคอมเมอร์เชียล (เอสซีบี) มานานกว่าทศวรรษ ซึ่งเธอได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาและกล่าวโทษผู้ใต้บังคับบัญชาของเธอ พร้อมเผยว่าเธอมีความคิดที่จะฆ่าตัวตายสังเวยความโง่เขลาในการทำธุรกิจของตัวเอง
ภายหลังการพิจารณาคดีที่กินเวลานานกว่า 5 สัปดาห์ในโฮจิมินห์ เจือง มี ลันและผู้ถูกกล่าวหาร่วมคนอื่นๆ อีก 85 คน ต้องเผชิญกับคำพิพากษาตัดสินในข้อหาต่างๆ ตั้งแต่การติดสินบนและการใช้อำนาจโดยมิชอบ ไปจนถึงการยักยอกและละเมิดกฎหมายการธนาคาร
เจือง มี ลันถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงิน 12,500 ล้านดอลลาร์ แต่อัยการระบุเมื่อวันพฤหัสบดีว่าความเสียหายทั้งหมดที่เกิดจากการหลอกลวงนี้มีมูลค่า 27,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็น 6% ของจีดีพีประเทศในปี 2566 โดยอัยการร้องขอต่อศาลให้พิจารณาโทษประหารชีวิต ซึ่งเป็นการลงโทษที่รุนแรงผิดปกติในกรณีนี้
เจือง มี ลันและคนอื่นๆ ถูกจับกุมในข้อหาอันเป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามการคอร์รัปชันระดับชาติ ซึ่งกวาดล้างนักการเมือง, เจ้าหน้าที่รัฐ และสมาชิกกลุ่มนักธุรกิจชั้นนำของเวียดนามจำนวนมากในช่วงไม่กี่ปีมานี้
หลังการจับกุมเจือง มี ลันเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตำรวจระบุว่ามีเหยื่อของเหตุการณ์อื้อฉาวนี้มากถึง 42,000 คน ซึ่งสร้างความตกใจให้กับคนทั้งประเทศ
อัยการกล่าวว่า ในระหว่างการพิจารณาคดี พวกเขาทำการยึดทรัพย์สินของเจือง มี ลันได้มากกว่า 1,000 รายการ และเสริมว่า เธอร่วมมือกับนายธนาคารบางรายในการมอบสินบนมูลค่า 5.2 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 190 ล้านบาท) แก่เจ้าหน้าที่รัฐให้ปกปิดการละเมิดกฎหมายการธนาคาร ถือเป็นสินบนครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในเวียดนาม
ทั้งนี้ มีการฟ้องคดีรับสินบนกว่า 1,700 คดี ที่มีผู้เกี่ยวข้องกว่า 4,400 คน จากกระบวนการปราบปรามคอร์รัปชันของเวียดนามในช่วงไม่กี่ปีมานี้.
