องค์การอนามัยโลกเผยรายงานล่าสุดว่า มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสตับอักเสบมากกว่า 3,500 รายในแต่ละวัน และยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลกก็เพิ่มขึ้น พร้อมเรียกร้องให้ดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อต่อสู้กับโรคติดเชื้อที่คร่าชีวิตมากเป็นอันดับสอง
ป้ายขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่สำนักงานใหญ่ในกรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (Photo by Fabrice COFFRINI / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 9 เมษายน 2567 กล่าวว่า รายงานล่าสุดขององค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับความรุนแรงในการระบาดของโรคไวรัสตับอักเสบที่ว่าโรคดังกล่าวกำลังทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 3,500 รายในแต่ละวัน และยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลกก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
รายงานที่เผยแพร่ก่อนการประชุมสุดยอดไวรัสตับอักเสบโลกในโปรตุเกสสัปดาห์นี้ อ้างอิงจากการรวบรวมข้อมูลใหม่ของ 187 ประเทศ โดยแสดงให้เห็นว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสตับอักเสบเพิ่มขึ้นเป็น 1.3 ล้านคนในปี 2565 เพิ่มจาก 1.1 ล้านคนในปี 2562
เม็ก โดเฮอร์ตี หัวหน้าโครงการเอชไอวี, โรคตับอักเสบ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทั่วโลกของ WHO กล่าวในการแถลงข่าวว่า ข้อมูลตัวเลขเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่ากังวลใจ
รายงานยังระบุอีกว่า มีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบทั่วโลก 3,500 รายต่อวัน แบ่งเป็นไวรัสตับอักเสบบี 83% และไวรัสตับอักเสบซี 17%
แม้จะมียาสามัญที่มีประสิทธิภาพและราคาถูกหลายชนิดที่สามารถรักษาไวรัสเหล่านี้ได้ แต่รายงานระบุว่ามีเพียง 3% ของผู้ป่วยโรคตับอักเสบบีที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสภายในสิ้นปี 2565 ส่วนโรคตับอักเสบซี มีผู้ป่วยเพียง 20% หรือ 12.5 ล้านคนที่ได้รับการรักษา
"ผลลัพธ์เหล่านี้ต่ำกว่าเป้าหมายทั่วโลกในการรักษาผู้ป่วยโรคตับอักเสบบีและซีให้ได้ 80% ภายในปี 2573" โดเฮอร์ตีกล่าว
ขณะที่ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกกล่าวในแถลงการณ์เน้นย้ำว่า "แม้จะมีความคืบหน้าทั่วโลกในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ แต่การเสียชีวิตก็ยังเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยโรคตับอักเสบน้อยเกินไป"
รายงานระบุว่า 63% ของการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีชนิดใหม่เกิดขึ้นในแอฟริกา แต่มีจำนวนทารกน้อยกว่าหนึ่งในห้าของทวีปนี้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนตั้งแต่แรกเกิด
หน่วยงานของสหประชาชาติยังชี้ให้เห็นปัญหาว่า ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโรคดังกล่าว ล้วนไม่สามารถเข้าถึงยารักษาสามัญได้เพียงพอ และมักจะจ่ายเงินในการรักษามากกว่าที่ควรจะเป็น
รายงานยังระบุอีกว่า สองในสามของผู้ป่วยโรคตับอักเสบทั้งหมดอยู่ในบังกลาเทศ, จีน, เอธิโอเปีย, อินเดีย, อินโดนีเซีย, ไนจีเรีย, ปากีสถาน, ฟิลิปปินส์, รัสเซีย และเวียดนาม
"การทำให้เกิดการเข้าถึงการป้องกัน, การวินิจฉัย และการรักษาอย่างทั่วถึงใน 10 ประเทศเหล่านี้ภายในปี 2568 โดยเฉพาะภูมิภาคแอฟริกา ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้สถานการณ์การระบาดทั่วโลกกลับมาเป็นปกติ" องค์การอนามัยโลกระบุในแถลงการณ์
ทั้งนี้ ไวรัสตับอักเสบเป็นโรคติดเชื้อที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดเป็นอันดับสอง รองจากวัณโรค.