สหรัฐฯ ขู่เลิกสนับสนุนอิสราเอล หากไม่ดำเนินการคุ้มครองพลเรือนในฉนวนกาซา

ผู้นำสหรัฐต่อสายหารือเครียดกับผู้นำอิสราเอล พร้อมขู่ว่าจะสนับสนุนทางทหารต่อไปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับท่าทีของอิสราเอลในการคุ้มครองพลเรือนในฉนวนกาซา

ภาพเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ขององค์กรการกุศลด้านอาหาร World Central Kitchen ทั้ง 7 รายที่เสียชีวิตในฉนวนกาซา จากการโจมตีทางอากาศของกองทัพอิสราเอล เมื่อวันที่ 1 เมษายน (Photo by WORLD CENTRAL KITCHEN / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 5 เมษายน 2567 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ต่อสายหารือกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล พร้อมเตือนอย่างจริงจังว่าอิสราเอลจะต้องดำเนินการคุ้มครองพลเรือนในฉนวนกาซาไม่ให้ได้รับผลกระทบจากปฏิบัติการทางทหารอีก ไม่เช่นนั้นรัฐบาลวอชิงตันอาจเปลี่ยนจุดยืนในการสนับสนุนทางทหาร

คำเตือนจากทำเนียบขาวเกิดขึ้นหลังปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลสังหารเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ 7 รายที่กำลังส่งมอบความช่วยเหลือด้านอาหารในฉนวนกาซา จนกลายเป็นความเดือดดาลระหว่างประเทศที่เรียกร้องให้อิสราเอลแสดงความรับผิดชอบมากกว่าแค่คำขอโทษ

ผู้เสียชีวิตทั้ง 7 รายทำงานให้กับ World Central Kitchen (WCK) ซึ่งมีฐานอยู่ในสหรัฐฯ โดยทำหน้าที่ส่งอาหารช่วยเหลือแก่ฉนวนกาซาทางทะเลจากไซปรัส

อิสราเอลระงับปฏิบัติการในฉนวนกาซาทันที หลังพบว่าการโจมตีแบบกำหนดเป้าหมายของตนเมื่อต้นสัปดาห์ ทำให้มีเจ้าหน้าที่ต่างชาติเสียชีวิต โดยบุคคลเหล่านั้นมาจากออสเตรเลีย, โปแลนด์, สหราชอาณาจักร, พลเมืองสองสัญชาติ (สหรัฐอเมริกา-แคนาดา) และปาเลสไตน์

ผู้นำอิสราเอลยอมรับว่ากองกำลังของตนสังหารเจ้าหน้าที่เหล่านั้นโดยไม่ได้ตั้งใจจากการโจมตีทางอากาศล่าสุดในฉนวนกาซา พร้อมให้คำมั่นว่าจะดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว

ในสหราชอาณาจักรซึ่งสูญเสียเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ไปมากที่สุดถึง 3 ราย รัฐบาลลอนดอนกำลังเผชิญแรงกดดันจากจดหมายที่ลงนามโดยทนายความมากกว่า 600 คน ให้มีการระงับใบอนุญาตส่งออกอาวุธไปยังอิสราเอล เป็นการตอบโต้

องค์กรการกุศลทางการแพทย์ Doctors Without Borders (MSF) กล่าวหาอิสราเอลว่าทำลายระบบการรักษาพยาบาลของฉนวนกาซา โดยอ้างถึงเหตุการณ์สังหารหมู่ที่ไม่มีโรงพยาบาลใดในโลกจะรับมือได้

ในการโทรศัพท์หาเนทันยาฮูครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดเหตุเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ทั้ง 7 ราย ไบเดนกล่าวว่า "การโจมตีของอิสราเอลครั้งนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และเรียกร้องให้หยุดยิงทันที พร้อมชี้แนะอย่างตรงไปตรงมาถึงความจำเป็นที่อิสราเอลจะต้องประกาศและดำเนินการตามขั้นตอนเฉพาะเจาะจง, เป็นรูปธรรม และวัดผลได้ เพื่อจัดการกับอันตรายที่มีต่อพลเรือน, ความทุกข์ทรมานด้านมนุษยธรรม และความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์" ตามการระบุในถ้อยแถลงของทำเนียบขาว และทิ้งท้ายว่า ประธานาธิบดีไบเดนแจ้งอย่างชัดเจนว่านโยบายของสหรัฐฯ ใดๆที่เกี่ยวข้องกับฉนวนกาซาจะถูกทบทวนตามพฤติการณ์ของอิสราเอล

จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติกล่าวว่า รัฐบาลวอชิงตันคาดหวังจะเห็นการดำเนินการจากอิสราเอลภายใน "ไม่กี่ชั่วโมงและไม่กี่วันข้างหน้า" แต่ย้ำจุดยืนว่า การสนับสนุนของสหรัฐฯ ในด้านการป้องกันประเทศของอิสราเอลยังคงมั่นคงเช่นเดิม

"สิ่งที่เราอยากเห็นและหวังว่าจะได้เห็นในอีกไม่กี่ชั่วโมงและไม่กี่วันข้างหน้า คือการเพิ่มเติมความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างมากในฉนวนกาซา, การเปิดพรมแดนเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งความรุนแรงต่อพลเรือนที่ลดลง" เคอร์บีกล่าว

ไบเดนจากพรรคเดโมแครตกำลังเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มมากขึ้นในปีแห่งการเลือกตั้งนี้ เกี่ยวกับการสนับสนุนอิสราเอลในสงครามฉนวนกาซา โดยเฉพาะด้านงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์ในความช่วยเหลือทางทหารที่สหรัฐฯ ส่งไปยังอิสราเอลในแต่ละปี

ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐยังได้แสดงความ "ไม่พอใจ" ต่อการสังหารเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ ในการโทรศัพท์คุยกับโยอาฟ กัลลันต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล อีกทางหนึ่งด้วย

ศพของเจ้าหน้าที่ต่างชาติทั้ง 6 รายของ World Central Kitchen ได้รับการเคลื่อนย้ายออกจากฉนวนกาซาผ่านทางอียิปต์เมื่อวันพุธ ขณะที่ศพของเจ้าหน้าที่ชาวปาเลสไตน์อีก 1 รายถูกทำพิธีฝังในฉนวนกาซา

เนทันยาฮูให้คำมั่นว่าจะทำลายกลุ่มฮามาสให้ได้ ซึ่งรวมถึงการโจมตีเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ขณะเดียวกันก็ให้คำมั่นที่จะเคลื่อนย้ายพลเรือนมากกว่า 1 ล้านคนในเมืองดังกล่าวให้พ้นจากอันตรายเสียก่อน

ขณะที่เนทันยาฮูต่อสู้กับสงคราม เขาต้องเผชิญกับแรงกดดันภายในประเทศอย่างรุนแรงจากครอบครัวและผู้สนับสนุนของตัวประกันชาวอิสราเอลที่ยังคงถูกควบคุมตัวในฉนวนกาซา และจากขบวนการประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมา

เบนนี แกนต์ซ สมาชิกคณะรัฐมนตรีสงคราม ซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมืองของเนทันยาฮู เรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งอย่างรวดเร็วในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องที่ถูกปฏิเสธโดยพรรคลิคุดฝ่ายขวาของนายกรัฐมนตรีฯ.