แอร์โดอันยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งท้องถิ่นของตุรเคีย

ประธานาธิบดีตุรเคียยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งท้องถิ่นของประเทศ และกล่าวว่าคะแนนเสียงของประชาชนครั้งนี้ถือเป็น "จุดเปลี่ยน" สำหรับพรรคของเขา หลังจากครองอำนาจมายาวนานถึง 2 ทศวรรษ

เอเครม อิมาโมกลู นายกเทศมนตรีเมืองอิสตันบูลและผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันพีเพิลส์ปาร์ตี้ (ซีเอชพี) กล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้าผู้สนับสนุนที่กำลังเฉลิมฉลองชัยชนะจากการเลือกตั้งท้องถิ่น ในอิสตันบูล เมื่อวันที่ 31 มีนาคม (Photo by OZAN KOSE / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 1 เมษายน 2567 กล่าวว่า ประธานาธิบดีเรเจป ทายยิป แอร์โดอัน ของตุรเคีย ยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งท้องถิ่นของประเทศเมื่อวันอาทิตย์ และชี้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับพรรคของเขา หลังจากครองอำนาจมายาวนานถึง 2 ทศวรรษ

ในการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้ ผู้ลงคะแนนเสียงราว 61 ล้านคนได้ลงคะแนนเลือกนายกเทศมนตรีทั้ง 81 จังหวัดของประเทศ รวมถึงสมาชิกสภาจังหวัด และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอื่นๆ

แต่หลายฝ่ายจับตาพื้นที่สำคัญในเมืองใหญ่ๆอย่างกรุงอังการา และอิสตันบูล ซึ่งเป็นฐานคะแนนสำคัญต่อการเมืองระดับชาติ

ผลคะแนนที่นับเสร็จสิ้นเกือบสมบูรณ์แสดงให้เห็นว่า พรรครีพับลิกันพีเพิลส์ปาร์ตี้ (ซีเอชพี) ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน สามารถเอาชนะพรรครัฐบาล (พรรคความยุติธรรมและการพัฒนา) ของแอร์โดอันไปได้อย่างมีนัยสำคัญ

เอเครม อิมาโมกลู จากพรรคซีเอชพี ที่ชนะการเลือกตั้งนายกเทศมตรีนครอิสตันบูลเมื่อห้าปีที่แล้ว ได้ประกาศชัยชนะทึ่มีต่อเมืองสำคัญแห่งนี้ พร้อมขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่ทำให้เขารักษาตำแหน่งพ่อเมืองอิสตันบูลได้เป็นสมัยที่ 2

แอร์โดอันซึ่งส่งมูรัต คูรุม อดีตรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งแข่งกับเอเครม อิมาโมกลู ได้ตั้งเป้าทวงคืนเมืองอิสตันบูลที่เขาประเมินว่าเป็นดั่งอัญมณีของประเทศ กลับคืนจากอิมาโมกลูที่ช่วงชิงเมืองสำคัญที่แอร์โดอันเคยครอบครองมานาน กระทั่งเสียไปเมื่อห้าปีก่อนอย่างเซอร์ไพรส์คนทั้งโลก

ทว่าภาวะอัตราเงินเฟ้อที่รุนแรงและวิกฤตเศรษฐกิจได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นที่มีต่อพรรครัฐบาลของเขา กลายเป็นตัวฉุดรั้งความนิยมที่ส่งผลในการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้

ฝูงชนจำนวนมากมารวมตัวกันที่จัตุรัสด้านนอกสำนักงานใหญ่ของพรรคฝ่ายค้านในเมืองอิสตันบูล พร้อมโบกธงชาติและจุดคบเพลิงเพื่อเฉลิมฉลองผลการแข่งขันที่มีต่อเอเครม อิมาโมกลู

ชายวัย 52 ปีรายนี้ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งสำคัญในการเมืองระดับประเทศ และจะกลายเป็นศัตรูที่น่าเกรงขามของแอร์โดอันมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อไปในปี 2571

เช่นเดียวกับอิสตันบูล ชัยชนะในอังการาซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศก็ตกเป็นของมันซูร์ ยาวาส จากพรรครีพับลิกันพีเพิลส์ปาร์ตี้ (ซีเอชพี) แม้การนับคะแนนยังไม่สิ้นสุด แต่เขาได้คะแนนเสียงใกล้แตะหลัก 60% เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ ในอิซมีร์ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสามของตุรเคียและเมืองอันตัลยาทางตอนใต้ ผู้สมัครจากพรรคฝ่ายค้านก็คว้าชัยชนะไปได้เช่นกัน

เห็นได้ชัดว่าพรรครัฐบาลของแอร์โดอัน มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียฐานที่มั่นในอีกหลายเมืองหากผลการเลือกตั้งได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ ซึ่งอาจเปลี่ยนโฉมหน้าของตุรเคียสู่บรรยากาศทางการเมืองใหม่

แอร์โดอันออกมายอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งด้วยการกล่าวสุนทรพจน์ต่อผู้สนับสนุนที่สำนักงานใหญ่ของพรรคฯ

"แม้เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เรายังไม่ได้รับผลลัพธ์ตามที่ต้องการ แต่เราจะเคารพการตัดสินใจของประเทศ และเราจะหลีกเลี่ยงการดื้อรั้นหรือการกระทำใดๆที่ขัดต่อเจตจำนงของชาติ" แอร์โดอันกล่าว

แอร์โดอันเริ่มต้นเส้นทางอำนาจของเขาในตุรเคียที่อิสตันบูลในปี 2537 เมื่อเขาได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีของเมืองในตำนานที่มีพื้นที่คร่อมยุโรปและเอเชีย

หลังจากนั้น พันธมิตรของเขาก็ยึดครองเมืองนี้ไว้ได้เสมอจนกระทั่งเอเครม อิมาโมกลู จากพรรครีพับลิกันพีเพิลส์ปาร์ตี้ (ซีเอชพี) เอาชนะการเลือกตั้งนายกเทศมตรีนครอิสตันบูลเมื่อห้าปีที่แล้ว จนกลายเป็นหัวข้อข่าวระดับโลก

หลังดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2557 แอร์โดอันซึ่งคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกสมัยเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ก็เริ่มรณรงค์การต่อสู้เพื่อทวงคืนเมืองอิสตันบูลที่มีประชากร 16 ล้านคนกลับคืนมา แต่ท้ายที่สุดก็ทำไม่สำเร็จและอาจส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อการเมืองมหภาค.