ศพของคนงานก่อสร้าง 2 รายถูกพบในน่านน้ำของท่าเรือบัลติมอร์เมื่อวันพุธ โดยทั้งคู่ติดอยู่ในรถกระบะสีแดงของพวกเขาเอง หลังสะพานพังถล่มเมื่อสองวันก่อน
เรือของหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ (ขวา) กำลังลาดตระเวนใกล้กับสะพานฟรานซิส สก็อตต์ คีย์ที่พังถล่มลงมาหลังถูกเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์พุ่งชนตอม่อ ในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 27 มีนาคม (Photo by Jim WATSON / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม 2567 กล่าวว่า ตำรวจรัฐแมริแลนด์ประกาศการค้นพบศพของคนงานก่อสร้าง 2 รายที่สูญหาย หลังสะพานฟรานซิส สก็อตต์ คีย์ ในเมืองบัลติมอร์พังถล่มตั้งแต่คืนวันอังคาร
ผู้เสียชีวิตทั้งคู่ถูกพบว่าติดอยู่ในรถกระบะสีแดงของพวกเขาเองใต้แม่น้ำปาแทปสโก ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง ขณะที่คนงานอีก 4 คนยังคงสูญหาย
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยระดมกำลังค้นหาผู้สูญหายทั้ง 6 รายตั้งแต่หลังเกิดเหตุ แต่ก็ไม่พบ จากนั้นจึงประกาศยกเลิกปฏิบัติการค้นหา ด้วยเชื่อว่าผู้สูญหายอาจเสียชีวิตทั้งหมด หลังผ่านเวลามานานข้ามวันในกระแสน้ำที่หนาวเย็น
ตำรวจยังกล่าวอีกว่า จากการใช้เครื่องโซนาร์สำหรับตรวจหาวัตถุใต้น้ำ พบซากยานพาหนะจำนวนมากติดอยู่ภายในเศษคอนกรีตและเศษเหล็กที่บิดเบี้ยวของสะพานฟรานซิส สก็อตต์ คีย์ ที่พังถล่มทับ
การค้นพบดังกล่าวทำให้นักประดาน้ำต้องประวิงปฏิบัติการกู้ภัย เนื่องจากต้องรอให้มีการรื้อโครงสร้างเหล็กออกก่อน เพื่อความปลอดภัยในการนำศพที่อาจพบเพิ่มเติมในยานพาหนะเหล่านั้น
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สืบสวนของรัฐบาลกลางยังให้รายละเอียดลำดับเวลาของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ โดยอ้างอิงข้อมูลจากเครื่องบันทึกเสียงของเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่แล่นชนตอม่อสะพานฟรานซิส สก็อตต์ คีย์ จนโครงสร้างพังถล่มลงมาเกือบทั้งหมด
เรือ 'ต้าหลี่' สัญชาติสิงคโปร์ บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ออกจากท่าเรือบัลติมอร์เมื่อเวลา 00.39 น. ของวันอังคาร โดยมีปลายทางที่ประเทศศรีลังกา และเมื่อเวลา 01.24 น. สัญญาณเตือนภัยเริ่มส่งเสียงบนเรือเพราะระบบไฟฟ้าขัดข้อง จากนั้นลูกเรือก็ส่งวิทยุไปแจ้งเจ้าหน้าที่ท่าเรือเพื่อขอเรือลากจูงในการช่วยบังคับทิศทางเรือ
ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ขนส่งของรัฐแมริแลนด์ก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากบนสะพานฟรานซิส สก็อตต์ คีย์ ที่มีการซ่อมแซมถนนอยู่ และพวกเขาก็สั่งปิดช่องทางจราจรทั้งหมด เพื่อไม่ให้ยานพาหนะขับขึ้นไปบนสะพานเพิ่มมากขึ้น จากนั้นสะพานจึงถล่มลงมาหลังเวลา 01.29 น.
โครงสร้างเหล็กเกือบทั้งหมดของสะพานที่มีผู้ขับขี่รถยนต์หลายหมื่นสัญจรไปมาในแต่ละวัน พังทลายลงภายในไม่กี่วินาที ตกลงมาทับหัวเรือที่พุ่งชน และปิดกั้นทางน้ำบริเวณท่าเรือการค้าที่พลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ
กลุ่มคนงาน 8 คนที่ซ่อมถนนอยู่บนสะพานขณะพังถล่ม หมดโอกาสหลบหนี และร่วงลงสู่แม่น้ำเบื้องล่างทันที
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยเหลือกลุ่มคนงานต่างชาติเหล่านี้ไว้ได้อย่างปลอดภัย 2 คน โดยอีก 6 คนสูญหาย และการค้นพบ 2 ศพล่าสุด ทำให้ยังเหลือผู้สูญหายที่น่าจะเสียชีวิตแล้วอีก 4 รายซึ่งมีสัญชาติเอลซัลวาดอร์, กัวเตมาลา ฮอนดูรัส และเม็กซิโก
มีการเปิดเผยชื่อผู้เสียชีวิต 2 รายนี้ว่า อเลฮานโดร เฮอร์นันเดซ ฟูเอนเตส วัย 35 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในบัลติมอร์แต่มาจากเม็กซิโก และดอร์เลียน โรเนียล กาสติลโล กาเบรรา วัย 26 ปี จากกัวเตมาลา โดยศพของทั้งคู่ถูกพบในน้ำลึกกว่า 25 ฟุต
ทั้งนี้ เรือ 'ต้าหลี่' ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยในต่างประเทศสองครั้งเมื่อปีที่แล้ว ตามข้อมูลของหน่วยงานทางทะเลสิงคโปร์
ท่าเรือบัลติมอร์เป็นท่าเรือหลักอันดับที่ 9 ของสหรัฐฯ ในแง่ของการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่มูลค่าสินค้ามหาศาล และมีแรงงานโดยรวมมากกว่า 155,000 ตำแหน่ง การเดินเรือสินค้าที่จำเป็นต้องหยุดชะงักในน่านน้ำนี้จึงจะส่งผลกระทบหนักต่อภาคการค้า, ขนส่ง และห่วงโซ่อุปทานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้.