เจ้าหน้าที่กู้ภัยหยุดปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหาย 6 คนที่ประสบเหตุตกจากสะพานที่พังถล่มเพราะถูกเรือชนในเมืองบัลติมอร์ คาดเสียชีวิตทั้งหมด ส่วนการเดินเรือพาณิชย์ยังคงถูกระงับในน่านน้ำเกิดเหตุ
โครงสร้างเหล็กของสะพานฟรานซิส สก็อตต์ คีย์ ติดค้างอยู่บนเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์สัญชาติสิงคโปร์ หลังจากเรือลำดังกล่าวพุ่งชนตอม่อจนสะพานพังถล่มลงมา ในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 มีนาคม (Photo by National Transportation Safety Board / Youtube / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 27 มีนาคม 2567 กล่าวว่า จากเหตุเรือตู้คอนเทนเนอร์แล่นชนเชิงสะพานฟรานซิส สก็อตต์ คีย์ ในเมืองบัลติมอร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้โครงสร้างสะพานหักพังลงมาเกือบทั้งหมดและพาหนะหลายคันที่ใช้เส้นทางบนสะพานดังกล่าว รวมทั้งผู้คนอีกราว 20 คนดิ่งลงสู่แม่น้ำทันที
เจ้าหน้าที่กู้ภัยระดมกำลังค้นหาผู้สูญหายในแม่น้ำปาแทปสโกตั้งแต่หลังเกิดเหตุวันก่อน และสามารถช่วยเหลือขึ้นมาได้ปลอดภัยบางส่วน แต่ยังคงไม่พบผู้สูญหายิก 6 คน
ท้ายที่สุด หน่วยกู้ภัยประกาศยกเลิกปฏิบัติการค้นหาแล้ว และเชื่อว่าผู้สูญหายอาจเสียชีวิตทั้งหมด หลังผ่านเวลามานานข้ามวันในกระแสน้ำที่หนาวเย็น
"เมื่อพิจารณาจากระยะเวลาที่เราค้นหา และความพยายามค้นหาในทุกรูปแบบที่เราทุ่มเทลงไป รวมทั้งอุณหภูมิปัจจุบันของน้ำในแม่น้ำ เราจึงเชื่อว่าเราจะไม่ประสบความสำเร็จในการพบเจอผู้สูญหายในแบบมีชีวิตอยู่" พลเรือตรีแชนนอน กิลรีธ ของหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ กล่าวในการแถลงข่าว
ผู้สูญหายทั้ง 6 คนเป็นสมาชิกของทีมงานก่อสร้างซึ่งกำลังซ่อมแซมหลุมบ่อบนสะพานดังกล่าว ขณะเกิดภัยพิบัติหลังเที่ยงคืนไม่นาน
"เรากำลังเปลี่ยนปฏิบัติการจากภารกิจค้นหาและช่วยเหลือ ไปสู่ปฏิบัติการฟื้นฟู" โรแลนด์ บัตเลอร์ เลขาธิการตำรวจรัฐแมริแลนด์ กล่าว
เขากล่าวว่า อุณหภูมิที่ลดลงและกระแสน้ำแรงทำให้นักประดาน้ำทำงานใต้น้ำต่อไปได้ยาก แต่ปฏิบัติการลาดตระเวนทางเรือจะยังคงดำเนินต่อไป
เวส มัวร์ ผู้ว่าการรัฐแมริแลนด์ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า การประมวลผลอย่างรวดเร็วของเจ้าหน้าที่เมื่อเรือแจ้งเหตุฉุกเฉิน ทำให้พวกเขาสามารถหยุดยานพาหนะไม่ให้ขับขึ้นไปบนสะพานเพิ่มมากขึ้นก่อนการถล่มลงมา พร้อมยกย่องกลุ่มเจ้าหน้าที่ว่าเป็นฮีโร่ที่แท้จริง
เอฟบีไอและหน่วยงานความมั่นคงอื่นๆ เน้นย้ำว่า เหตุครั้งนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับการก่อการร้าย เพราะการสอบสวนเบื้องต้นชี้ให้เห็นว่าเป็นอุบัติเหตุ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เรียกสะพานถล่มในบัลติมอร์ว่าเป็น "อุบัติเหตุร้ายแรง" พร้อมให้คำมั่นว่าจะเปิดการเดินเรือในน่านน้ำนี้อีกครั้งและสร้างสะพานขึ้นมาใหม่
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐระบุว่า ผู้สูญหาย 2 คนเป็นบุคคลสัญชาติกัวเตมาลา ขณะที่สื่อท้องถิ่นเดอะ บัลติมอร์ แบนเนอร์ รายงานว่า ชาวเม็กซิกัน, เอล ซัลวาดอร์ และฮอนดูรัส ก็เป็นหนึ่งในบรรดาผู้สูญหายเช่นกัน
มีรายงานเปิดเผยในช่วงก่อนเกิดเหตุว่า ลูกเรือลำที่ชนตอม่อสะพานพยายามหลีกเลี่ยงการชนแล้ว แต่เกิดความผิดปกติขึ้นกับเรือที่สูญเสียพลังงานและเริ่มมุ่งหน้าเข้าหาเชิงสะพาน
"ก่อนเกิดเหตุ เรือต้าหลี่ประสบกับการสูญเสียแรงขับชั่วขณะ เป็นผลให้ไม่สามารถรักษาทิศทางที่ต้องการได้และพุ่งชนตอม่อสะพานจนหยุดนิ่ง" ตามการระบุของหน่วยงานทางทะเลสิงคโปร์ ซึ่งเป็นสัญชาติของเรือลำดังกล่าว และเสริมว่า ลูกเรือได้ทิ้งสมอในความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะหยุดเรือไม่ให้พุ่งชน
เจนนิเฟอร์ โฮเมนดี หัวหน้าคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติ ซึ่งดูแลการสอบสวนเหตุครั้งนี้ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนของรัฐบาลกลางจะใช้บันทึกจากเรือลำดังกล่าวในการพิจารณาประกอบข้อเท็จจริงในการดำเนินคดี
สะพานฟรานซิส สก็อตต์ คีย์ ซึ่งตั้งชื่อตามกวีผู้เขียนเนื้อเพลงเพลงชาติสหรัฐฯ ถือเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญในระบบทางหลวงชายฝั่งตะวันออก โดยมีรถยนต์ประมาณ 34,000 คันใช้ทางในแต่ละวัน
อย่างไรก็ตาม โครงสร้างเหล็กของสะพานที่พังถล่มลง ตอนนี้จมอยู่ใต้น้ำครึ่งหนึ่ง และปิดกั้นการจราจรทางทะเลเกือบทั้งหมด
ท่าเรือบัลติมอร์เป็นท่าเรือหลักอันดับที่ 9 ของสหรัฐฯ ในแง่ของการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่มูลค่าสินค้ามหาศาล และมีแรงงานโดยรวมมากกว่า 155,000 ตำแหน่ง การระงับการเดินเรือในน่านน้ำนี้จึงจะส่งผลกระทบหนักต่อภาคการค้าและขนส่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘คมนาคม’ สั่งคุมเข้มกรณีพ่วงเรือลากจูงกระแทกตอม่อสะพาน
'อธิรัฐ' สั่งการเจ้าท่า เร่งตรวจสอบกรณีพ่วงเรือลากจูง กระแทกตอม่อสะพานเลี่ยงเมือง 356 อยุธยา พร้อมเพิ่มมาตรการ ให้มีเรือโยงท้ายเมื่อผ่านสะพาน เตือนการเดินเรือช่วงฤดูน้ำเหนือไหลหลากอย่างต่อเนื่อง