ยูเอ็นเรียกร้องหยุดยิงในฉนวนกาซาเป็นครั้งแรก ในขณะที่สหรัฐฯ งดออกเสียง

ที่ประชุมสหประชาชาติลงมติเรียกร้องให้มีการหยุดยิงในฉนวนกาซาเป็นครั้งแรก ขณะที่สหรัฐฯ งดออกเสียง ทำให้อิสราเอลตกที่นั่งลำบาก

เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ (แถวหน้า คนที่ 2 จากซ้าย) งดออกเสียงระหว่างการลงมติเรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันทีในฉนวนกาซา ขณะที่ตัวแทนจากชาติอื่นยกมือเห็นชอบ ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 25 มีนาคม (Photo by ANGELA WEISS / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 26 มีนาคม 2567 กล่าวว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเปิดประชุมและลงมติเรียกร้องให้มีการหยุดยิงในฉนวนกาซาได้สำเร็จเป็นครั้งแรก โดยที่ฝ่ายคัดค้านมาตลอดอย่างสหรัฐฯยอมงดออกเสียง

หลังสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซายืดเยื้อยาวนานกว่า 5 เดือน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติก็สามารถลงมติเรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันทีได้ในที่สุด

มติดังกล่าวเรียกร้องให้มีการหยุดยิงที่ยาวนานเพียงพอสำหรับการแก้ไขปัญหาด้านมนุษยธรรมอย่างยั่งยืน และเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวตัวประกันทั้งหมดที่กลุ่มฮามาสและกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ จับตัวไปคุมขังไว้ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม

มติที่ประสบความสำเร็จนี้ร่างโดยตัวแทนจากแอลจีเรียซึ่งเป็นสมาชิกปัจจุบันของกลุ่มอาหรับในคณะมนตรีความมั่นคง รวมถึงการสนับสนุนของสโลวีเนียและสวิตเซอร์แลนด์

ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้วีโต้ข้อเสนอหยุดยิงครั้งก่อนๆ แต่ระยะหลังเริ่มแสดงความไม่พอใจต่อการกระทำของอิสราเอลมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะความดื้อดึงที่จะขยายปฏิบัติการทางทหารไปยังเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ที่อัดแน่นไปด้วยผู้คน

ทัศนคติที่เปลี่ยนไปต่อพันธมิตรในตะวันออกกลางจึงเกิดขึ้น เมื่อสหรัฐฯ เสนอลงมติโดยตระหนักถึงความจำเป็นของการหยุดยิงทันทีและยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม ข้อความที่ระบุให้หยุดยิงทันทีและยั่งยืนนั้นถูกคัดค้านโดยรัสเซีย, จีน และรัฐอาหรับต่างๆ ที่พิจารณาว่าการเรียกร้องด้วยถ้อยคำแค่นี้ไม่เพียงพอ แต่ต้องระบุอย่างชัดเจนให้อิสราเอลหยุดปฏิบัติการทั้งหมดในฉนวนกาซา

ทั้งนี้ สหรัฐฯ มักออกหน้าด้วยการขัดขวางมติหยุดยิงซ้ำแล้วซ้ำเล่า และพยายามรักษาสมดุลระหว่างการช่วยเหลือทางทหารต่อพันธมิตรอย่างอิสราเอล กับการกดดันนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ทุกครั้งที่มีรายงานยอดเสียชีวิตของพลเรือนในฉนวนกาซา

การเรียกร้องให้หยุดยิงตามมติล่าสุดถือเป็นบทบาทของสหประชาชาติในภาพกว้าง แต่ไม่ได้เชื่อมโยงโดยตรงกับการเจรจาหยุดยิงที่กำลังดำเนินอยู่โดยคนกลางอย่างกาตาร์, สหรัฐฯ และอียิปต์ ที่กำลังหาข้อตกลงยุติการต่อสู้เพื่อแลกกับการปล่อยตัวตัวประกันของกลุ่มฮามาสซึ่งเชื่อว่ายังมีอีกประมาณ 130 คนในฉนวนกาซา

ขณะที่อิสราเอลประท้วงคณะมนตรีความมั่นคงฯมาตลอด ที่ไม่เคยเรียกร้องให้มีการประณามกลุ่มฮามาสโดยเฉพาะเจาะจง และการลงมติครั้งนี้ได้พุ่งเป้ากดดันไปยังอิสราเอลให้ปฏิบัติตาม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อแผนการทางทหารที่เตรียมไว้สำหรับการบุกเมืองราฟาห์ โดยรัฐสมาชิกมีหน้าที่ปฏิบัติตามมติที่ผ่านโดยคณะมนตรีความมั่นคง

ล่าสุด อิสราเอลแสดงความไม่พอใจที่สหรัฐงดออกเสียงในที่ประชุมและเปลี่ยนท่าทีจากนโยบายที่เห็นพ้องร่วมกัน จึงยกเลิกกำหนดการเยือนกรุงวอชิงตันของคณะผู้แทนที่เตรียมหารือเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารในเมืองราฟาห์

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติไม่ลงรอยกันอย่างชัดเจนในประเด็นสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส และเพิ่งลงมติได้สำเร็จเพียง 2 มติเท่านั้น จากทั้งหมด 8 มติที่เปิดประชุม โดยทั้งสองมติดังกล่าวเป็นกรณีที่เน้นในด้านการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นหลักและดูเหมือนจะส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยในพื้นที่สู้รบ เพราะอิสราเอลยังคงปิดกั้นขบวนรถช่วยเหลือไม่ให้เข้าไปในฉนวนกาซา ขณะที่ความอดอยากกำลังถึงขีดสุดในช่วงเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฝนและความหนาวเย็นทำให้สถานการณ์ของผู้พลัดถิ่นและตัวประกันในฉนวนกาซารุนแรงขึ้น

ชาวปาเลสไตน์ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ในฉนวนกาซาต้องพลัดถิ่นตั้งแต่เริ่มสงคราม ขณะนี้พวกเขากำลังเผชิญกับภาว