เมียนมาอาจไม่สามารถจัดการเลือกตั้งครั้งต่อไปทั่วประเทศได้ ขณะที่กองทัพพยายามดิ้นรนอีกเฮือกเพื่อควบคุมความรุนแรงจากกลุ่มต่อต้าน
คณะกรรมการการเลือกตั้งจัดแสดงเครื่องลงคะแนนเสียงที่จะใช้ในการเลือกตั้งของเมียนมาในอนาคต (Photo by AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 25 มีนาคม 2567 กล่าวว่า มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหาร ยอมรับว่าเมียนมาอาจไม่สามารถจัดการเลือกตั้งครั้งต่อไปทั่วประเทศได้ เนื่องจากบางพื้นที่ยังมีความไม่สงบอย่างต่อเนื่องและกองทัพยังไม่สามารถปราบปรามหรือทำข้อตกลงสงบศึกกับกลุ่มกบฏชาติพันธุ์ได้ในเร็วๆนี้
นับตั้งแต่การทำรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 กองทัพเมียนมาติดค้างการจัดการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนมาหลายครั้งแล้ว โดยที่ผ่านมาได้ใช้ข้ออ้างความไม่สงบในการขยายภาวะฉุกเฉินออกไปเรื่อยๆ
และช่วงที่ผ่านมา กลุ่มกบฏชาติพันธุ์ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในรัฐฉาน ได้เปิดฉากโจมตีกองทัพอย่างหนักและสามารถยึดพื้นที่ยุทธศาสตร์ได้หลายจุด ทำให้รัฐบาลทหารทุ่มเทกำลังในการรบพุ่งมากกว่าบริหารประเทศและการเมืองภาคประชาชน ท่ามกลางแรงกดดันจากนานาชาติที่ต้องการให้กองทัพคืนอำนาจสู่ประชาชนโดยเร็ว
มิน อ่อง หล่ายกล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังมุ่งเน้นไปที่การตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง แต่ออกตัวว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อสันติภาพกลับคืนสู่สภาพเดิมแล้วเท่านั้น
"หากรัฐสงบและมั่นคง เราก็มีแผนที่จะจัดการเลือกตั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องให้มากที่สุด แม้ว่าการเลือกตั้งจะไม่ได้จัดขึ้นทั่วประเทศภายใต้กฎหมายก็ตาม" มิน อ่อง หล่ายกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว TASS ของรัสเซีย และเผยแพร่ผ่านสื่อโกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมา (Global New Light of Myanmar)
กองทัพเคยให้เหตุผลในการทำรัฐประหารไว้ว่า พบการทุจริตการเลือกตั้งอย่างกว้างขวางในปี 2563 ที่พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของนางอองซาน ซูจี ได้รับชัยชนะถล่มทลาย แต่คำกล่าวหานั้นก็ไม่ได้รับการยืนยันด้วยหลักฐานแต่อย่างใด
เมื่อปีที่แล้ว คณะกรรมการการเลือกตั้งที่จัดตั้งโดยกองทัพ ได้เปลี่ยนรูปแบบการเลือกตั้งจากของเดิมที่อาจทำให้พรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตยได้รับชัยชนะอีก ไปใช้ระบบสัดส่วนแทน
สามปีหลังการยึดอำนาจ รัฐบาลทหารกำลังดิ้นรนเพื่อบดขยี้กลุ่มติดอาวุธที่ต่อต้านการปกครองของตนในวงกว้าง โดยต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธเพื่อประชาธิปไตยและกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยทางชาติพันธุ์ทั่วพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ และเมื่อไม่นานมานี้ ต้องเผชิญกับความสูญเสียต่อเนื่องหลายครั้งต่อกลุ่มดังกล่าวที่สามารถชิงพื้นที่การครอบครองจากกองทัพได้.