ชาวรัสเซียทำกิจกรรมรำลึกเนื่องในวันไว้ทุกข์แห่งชาติ หลังเหตุสังหารหมู่ที่คอนเสิร์ตฮอลล์ในมอสโกคร่าชีวิตผู้คนไป 137 ราย ส่วนผู้ก่อเหตุ 2 คนแรกถูกลากขึ้นศาลเพื่อดำเนินคดีข้อหาก่อการร้าย
เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของรัสเซียจับกุมชาย 2 คนที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนร่วมกับการกราดยิงครั้งใหญ่ในคอนเสิร์ตฮอลล์ของกรุงมอสโกที่คร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 137 ราย เมื่อวันที่ 24 มีนาคม (Photo by Handout / RUSSIAN INVESTIGATIVE COMMITTEE / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 25 มีนาคม 2567 กล่าวว่า จากเหตุคนร้ายจำนวนหนึ่งบุกกราดยิงในคอนเสิร์ตฮอลล์ของกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย รวมทั้งเผาอาคารจนไหม้เกรียม ล่าสุดทางการยืนยันยอดผู้เสียชีวิตแล้ว 137 ราย
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ประกาศให้วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม เป็นวันไว้ทุกข์แห่งชาติ และให้คำมั่นต่อประชาชนว่าจะลงโทษผู้ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้อย่างสาสม พร้อมระบุว่าจับกุมผู้ต้องสงสัยก่อเหตุได้แล้ว 4 คนขณะพยายามหลบหนีข้ามชายแดนไปยังยูเครน
ชาวรัสเซียออกมาทำกิจกรรมไว้อาลัย ณ จุดเกิดเหตุอุกอาจครั้งนี้ มีทั้งการวางดอกไม้, ร่วมจุดเทียน และสวดมนต์ เช่นเดียวกับจุดต่างๆในหลายพื้นที่ที่ผู้คนออกมาแสดงสัญลักษณ์แห่งความเป็นหนึ่งเดียวกัน
ตามรายงานอย่างเป็นทางการ ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 137 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 3 ราย ขณะที่ผู้บาดเจ็บมีมากกว่า 180 คน ในจำนวนนี้ 40 คนมีอาการสาหัสและภาวะวิกฤต ขณะที่กระบวนการระบุตัวตนผู้เสียชีวิตเป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะศพถูกเผาไหม้เกือบทั้งหมด ทำให้ตอนนี้ระบุไปได้เพียง 29 ราย
คณะกรรมการสืบสวนของรัสเซียให้ข้อมูลว่า การเสียชีวิตทั้งหมดมีทั้งสาเหตุจากบาดแผลถูกกระสุนปืน, การสูดดมควันไฟ และการเหยียบกันตาย พร้อมเสริมว่าพบอาวุธปืนและกระสุนปืนจำนวนมากในที่เกิดเหตุและในรถยนต์ที่ผู้ต้องสงสัยใช้หลบหนี
หน่วยความมั่นคงกลางของรัสเซีย (เอฟเอสบี) จับกุมผู้ต้องสงสัย 11 คนที่เกี่ยวข้องกับการโจมตี รวมทั้ง 4 คนที่เชื่อว่าเป็นผู้ก่อเหตุในอาคารแสดงคอนเสิร์ต โดยเอฟเอสบีกล่าวก่อนหน้านี้ว่ากลุ่มคนร้ายมีการติดต่อสื่อสารกับบางกลุ่มในยูเครน และทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติ
แต่รัฐบาลเคียฟของประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี กล่าวว่า ยูเครนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีดังกล่าว และชี้ว่ารัสเซียกำลังผูกเรื่องราวให้ยูเครนดูเป็นผู้ร้ายและมีความผิดไปด้วย เพื่อหาข้ออ้างโจมตีเพิ่มเติมในสงคราม เช่นเดียวกับทำเนียบขาวของสหรัฐที่ออกมายืนยันว่ายูเครนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น แต่เป็นกลุ่มไอเอสที่ต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวต่อการโจมตีครั้งนี้
หลังเกิดเหตุ กลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส ออกแถลงการณ์อ้างความรับผิดชอบว่านักรบติดอาวุธ 4 คนของตนได้ลงมือโจมตีครั้งนี้ด้วยปืนกล, ปืนพก, มีด และระเบิดเพลิง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสงครามอันดุเดือดต่อดินแดนต่างๆ ที่แสดงความเป็นปรปักษ์กับศาสนาอิสลาม
ล่าสุด ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุ 2 คนแรก ถูกเจ้าหน้าที่รัสเซียพาตัวมาขึ้นศาลเมื่อวันอาทิตย์ เพื่อดำเนินคดีข้อหาก่อการร้าย
สำนักข่าว TASS รายงานข้อมูลที่ได้จากศาลแขวงบาสมานีในกรุงมอสโกว่า ผู้ต้องสงสัย 2 คนถูกตั้งข้อหามีส่วนร่วมในการโจมตีของผู้ก่อการร้าย และข้อหาโจมตีด้วยความหวาดกลัวต่อกลุ่มบุคคลจนส่งผลให้เกิดการเสียชีวิต
ในเวลาต่อมา ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คนถูกระบุว่าเป็นชาวต่างชาติและมีชื่อว่า ไซดากรามี มูโรดาลี ราชาบาลิโซดา และดาเลร์ดจอน บาโรโตวิช มีร์โซเยฟ โดยรัฐบาลมอสโกและสื่อมวลชนต่างเชื่อกันว่า ผู้ต้องสงสัยอาจมาจากทาจิกิสถานซึ่งเป็นดินแดนของอดีตสหภาพโซเวียตที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม และมีพรมแดนติดกับอัฟกานิสถานซึ่งเป็นฐานบัญชาการใหญ่ของกลุ่มติดอาวุธญิฮาด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หน่วยข่าวกรองทหารของยูเครนเผย เคยมีแผนลอบสังหาร ‘ปูติน’ หลายครั้งแล้ว
ตามรายงานข่าวกรองทางทหารของยูเครน พบว่ามีการพยายามลอบสังหารประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียหลายครั้งแล้ว “แต่อย่างที่คุณเห็น พวกเขาทำไม่สำเร็จ” นายพลคิริโล บูดานอฟ-หัวหน้าหน่วยข่าวกรองทหาร กล่า