เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้หลายลูกเมื่อวันจันทร์ เพื่อแสดงความก้าวร้าวในการต้อนรับรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนเกาหลีใต้
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ปราศรัยระหว่างการประชุมสุดยอดด้านประชาธิปไตยครั้งที่ 3 ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 18 มีนาคม (Photo by EVELYN HOCKSTEIN / POOL / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2567 กล่าวว่า แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางเยือนกรุงโซลของเกาหลีใต้ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดด้านประชาธิปไตย และได้รับการต้อนรับด้วยขีปนาวุธจากเพื่อนบ้านอย่างเกาหลีเหนือ
โดยเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้หลายลูก เพื่อเรียกร้องความสนใจและแสดงออกถึงความไม่ยินดีต่อการเยือนของเจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐบนคาบสมุทรนี้
กองทัพเกาหลีใต้ระบุว่า ตรวจพบการปล่อยขีปนาวุธพิสัยใกล้หลายลูกเมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ ซึ่งพุ่งทะยานไปเป็นระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร ก่อนตกลงสู่ทะเลตะวันออกหรือที่รู้จักกันในชื่อทะเลญี่ปุ่น และขณะนี้พันธมิตรไตรภาคี (เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น-สหรัฐ) กำลังแบ่งปันข้อมูลดังกล่าวเพื่อวิเคราะห์วิธีรับมือสถานการณ์
รัฐบาลวอชิงตันและโซลปิดฉากการซ้อมรบร่วมประจำปีครั้งใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จนก่อให้เกิดการตอบโต้อย่างโกรธเคืองและการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงจากรัฐบาลเปียงยางซึ่งประณามการซ้อมรบดังกล่าวทั้งหมดว่าเป็นการซ้อมสำหรับการรุกรานประเทศของตน
บลิงเคนเดินทางมายังโซลเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดด้านประชาธิปไตยครั้งที่ 3 และพบกับประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล เพื่อหารือในการตอบโต้ภัยคุกคามจากอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และตัวเขาได้ประณามการยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดของรัฐบาลเปียงยาง
ขณะที่ญี่ปุ่นตรวจพบว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ 3 ลูก ตกนอกเขตเศรษฐกิจพิเศษของประเทศ แต่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ
การยิงขีปนาวุธเมื่อวันจันทร์ถือเป็นการทดสอบขีปนาวุธครั้งที่ 2 ของเกาหลีเหนือในปีนี้ หลังจากที่รัฐบาลเปียงยางยิงขีปนาวุธที่มีหัวรบความเร็วเหนือเสียงไปเมื่อวันที่ 14 มกราคม
บลิงเคนเดินทางถึงเกาหลีใต้ในบ่ายวันอาทิตย์ก่อนการประชุมสุดยอดด้านประชาธิปไตย ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-20 มีนาคม โดยจะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐ, องค์กรพัฒนาเอกชน และสมาชิกภาคประชาสังคมมาร่วมหารือกัน
นอกจากประธานาธิบดีเกาหลึใต้แล้ว บลิงเคนยังได้พบกับโช แท-ยุล รัฐมนตรีต่างประเทศอีกด้วย และมีการหารือเกี่ยวกับการส่งเสริมความเป็นพันธมิตร เพื่อปรับปรุงสิ่งที่เรียกว่า "การป้องปรามแบบขยายเวลา" ต่อเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในพันธมิตรสำคัญของภูมิภาคนี้ และสหรัฐฯ ได้ส่งทหารประมาณ 27,000 นายไปประจำการในพื้นที่ เพื่อช่วยป้องกันการถูกคุมคามจากรัฐนิวเคลียร์อย่างเกาหลีเหนือ
รัฐบาลโซลชุดปัจจุบันยังได้กระชับความสัมพันธ์กับรัฐบาลโตเกียวมากขึ้น เพื่อร่วมมือด้านความมั่นคงในการพิทักษ์ดินแดนให้พ้นภัยจากอาวุธของคิมจองอึน.