รัฐบาลสหรัฐประกาศจะเปิดพรมแดนทางบกอนุญาตให้ผู้เดินทางที่ไม่ใช่กิจธุระจำเป็นที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบแล้วสามารถข้ามแดนจากเม็กซิโกและแคนาดาเข้าสหรัฐได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป พร้อมกันกับการเปิดรับนักเดินทางทางอากาศ โดยจะประกาศกำหนดวันที่แน่นอนต่อไป
เอเอฟพีรายงานเมื่อวันพุธที่ 13 ตุลาคมว่า สหรัฐปิดพรมแดนงดรับนักเดินทางที่ไม่จำเป็นเข้าประเทศทั้งทางบก ทางน้ำและทางอากาศ มาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่เมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา ทำเนียบขาวประกาศว่า สหรัฐจะเริ่มเปิดพรมแดนยกเลิกข้อจำกัดสำหรับนักเดินทางทางอากาศที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว จาก 33 ประเทศ รวมถึงจีน, อินเดีย, บราซิล และประเทศส่วนใหญ่ในยุโรป เริ่มตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน และล่าสุดเมื่อวันอังคาร รัฐบาลสหรัฐประกาศว่าจะเปิดพรมแดนทางบกไปพร้อมกันในช่วงเวลานั้นด้วย
รอยเตอร์อ้างคำแถลงของอาเลฮันโดร มายอร์คัส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ว่าเริ่มตั้งเดือนพฤศจิกายน รัฐบาลสหรัฐจะอนุญาตให้ผู้เดินทางจากเม็กซิโกและแคนาดาที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดสแล้ว เข้าสหรัฐได้ผ่านจุดผ่านแดนทางบกและทางเรือ สำหรับการเดินทางที่ไม่ใช่กิจธุระจำเป็น ซึ่งรวมถึงการเยี่ยมเยือนเพื่อนและครอบครัว หรือเพื่อการท่องเที่ยว
เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐกล่าวกันว่า ในเร็ววันนี้ ทำเนียบขาวจะระบุวันที่แน่นอนสำหรับการเปิดพรมแดน ทั้งผ่านจุดผ่านแดนทางบก และการเดินทางทางอากาศ ซึ่งจะกำหนดเวลาไปพร้อมๆ กัน
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวเผยว่า การเปิดจุดผ่านแดนทางบกนั้นจะแบ่งเป็น 2 ระยะ โดยในระยะแรกนั้น การเดินทางที่ "ไม่จำเป็น" ผู้เดินทางจะต้องฉีดวัคซีนครบแล้วเท่านั้น แต่สำหรับการเดินทางที่ "จำเป็น" จะอนุญาตให้ผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนเข้าประเทศได้เช่นเดียวกับช่วง 19 เดือนที่ผ่านมา แต่ในระยะที่ 2 ซึ่งจะเริ่มต้นในเดือนมกราคม 2565 จะบังคับว่าผู้เดินทางเข้าสหรัฐทุกคนต้องฉีดวัคซีนครบแล้วเท่านั้น ไม่ว่าจะเดินทางเข้ามาด้วยวัตถุประสงค์ใดก็ตาม
เจ้าหน้าที่รายเดิมกล่าวว่า การเว้นช่วงสำหรับระยะที่ 2 เพื่อเปิดโอกาสให้นักเดินทางที่จำเป็น เช่น คนขับรถบรรทุกหรืออื่นๆ ได้มีเวลาฉีดวัคซีน เพื่อให้การเปลี่ยนเข้าสู่ระบบใหม่เป็นไปอย่างราบรื่น
กำหนดเวลาเปิดพรมแดนทางบกเดือนพฤศจิกายน หมายความว่า ข้อกำหนดปิดจุดผ่านแดนเดิมที่จะหมดอายุวันที่ 21 ตุลาคม จะถูกขยายเวลาออกไปอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่กฎข้อบังคับใหม่จะเริ่มมีผล
สำหรับคำถามที่ว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนชนิดใดจึงจะได้รับอนุญาตให้เข้าสหรัฐได้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงผู้นี้กล่าวว่าควรเป็นไปตามคำแนะนำของหน่วยงานด้านสุขภาพของสหรัฐ
สัปดาห์ที่แล้ว ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (ซีดีซี) กล่าวว่า วัคซีนทุกชนิดที่ผ่านการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐ (เอฟดีเอ) และองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) จะได้รับการยอมรับให้เข้าสหรัฐได้สำหรับการเดินทางทางอากาศ
เจ้าหน้าที่ผู้นี้ชี้ว่า แม้ซีดีซีจะยังไม่ประกาศชัดเจนสำหรับผู้เดินทางข้ามแดนทางบก แต่เชื่อว่าน่าจะใช้กฎเดียวกันกับการเดินทางทางอากาศ และกฎใหม่นี้จะใช้กับผู้เดินทางข้ามแดนทางบกอย่างถูกกฎหมายเท่านั้น
เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐกล่าวกันด้วยว่า ทำเนียบขาวจะไม่ยกเลิกคำสั่ง "ลักษณะ 42" จากรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะอนุญาตให้เนรเทศผู้ที่เดินทางข้ามแดนอย่างผิดกฎหมาย เนื่องจากเหตุผลด้านสาธารณสุข ซึ่งเคยทำให้รัฐบาลสหรัฐเนรเทศชาวเฮติหลายพันคนที่อพยพข้ามพรมแดนจากเม็กซิโกเมื่อเดือนกันยายน ที่นักวิจารณ์กล่าวกันว่ากฎหมายนี้จำกัดการเข้ามาขอลี้ภัยอย่างไม่ยุติธรรม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฆาตกรรมในนิวยอร์ก – ตำรวจพบร่องรอยของผู้ต้องสงสัยในที่เกิดเหตุ
ในระหว่างการสอบสวนคดีฆาตกรรม ไบรอัน ทอมป์สัน ซีอีโอบริษัทประกันสหรัฐฯ ในนิวยอร์ก เจ้าหน้าที่สืบสวนได้ค้นพบร่องรอยในที่เกิดเหตุ