กลุ่มแพทย์อาวุโสชาวเกาหลีใต้ประกาศลาออกในวันที่ 25 มีนาคม เพื่อสนับสนุนกลุ่มแพทย์ฝึกหัดที่ยืนหยัดประท้วงหยุดงานนานเกือบเดือนในการต่อต้านแผนปฎิรูปของรัฐบาล
แพทย์อาวุโสชูป้ายข้อความ "หยุดนโยบายการแพทย์ประชานิยม!" ระหว่างการชุมนุมประท้วงต่อต้านแผนการปฎิรูปของรัฐบาลเกาหลีใต้ ในกรุงโซล (Photo by Jung Yeon-je / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 16 มีนาคม 2567 กล่าวว่า การหยุดงานประท้วงต่อเนื่องของแพทย์ฝึกหัดในเกาหลีใต้ผ่านมาเกิน 3 สัปดาห์แล้ว ส่งผลให้มีการยกเลิกการผ่าตัด, การรอคอยการรักษาที่ยาวนานของผู้ป่วย และกระบวนการรักษาที่ล่าช้าในโรงพยาบาลใหญ่ๆ จนรัฐบาลต้องเบิกงบฉุกเฉินหลายล้านดอลลาร์เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ และระดมหน่วยแพทย์ทหารให้มาทำงานในโรงพยาบาลพลเรือน
แม้รัฐบาลเริ่มดำเนินคดีทางกฎหมายต่อผู้เกี่ยวข้องกับการยุยงให้เกิดการหยุดงาน รวมทั้งระงับใบอนุญาตทางการแพทย์ของแพทย์ฝึกหัดหลายพันคน จากการฝ่าฝืนคำสั่งของรัฐบาลที่ต้องการให้พวกเขากลับไปทำงานที่โรงพยาบาลตามปกติ แต่สถานการณ์สาธารณสุขของเกาหลีใต้ยังคงวิกฤตเช่นเดิม
รัฐบาลกำลังเติมเต็มระบบรักษาพยาบาลด้วยความช่วยเหลือของพยาบาลและแพทย์อาวุโส เช่นเดียวกับแพทย์ทหารที่ถูกส่งเข้ามาทดแทน
ทว่าล่าสุด ผู้แทนของอาจารย์แพทย์จากมหาวิทยาลัย 20 แห่ง ซึ่งเป็นแพทย์อาวุโสของโรงพยาบาลทั่วไป ได้จัดการประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยบรรดาอาจารย์จาก 16 สถาบัน เห็นด้วยอย่างมากในการสนับสนุนเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องของพวกเขาในการหยุดงานกดดันรัฐบาลให้ยกเลิกแผนปฎิรูปที่พวกเขาเชื่อว่าจะกัดกร่อนคุณภาพการให้บริการ รวมทั้งส่งผลด้านลบต่อรายได้และสถานะทางสังคมของพวกเขา
แพทย์ฝึกหัดยังอ้างว่าพวกเขาทำงานหนักเกินไปและได้รับค่าจ้างต่ำกว่าปกติ รัฐบาลจึงประกาศมาตรการใหม่เพื่อปรับปรุงค่าจ้างและเงื่อนไขสำหรับบรรดาแพทย์ฝึกหัด รวมถึงการทบทวนระยะเวลาการทำงานต่อเนื่อง 36 ชั่วโมง ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำหรับแพทย์เหล่านั้น
"กลุ่มอาจารย์แพทย์ร่วมแถลงว่า บุคลากรจากมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งได้ตัดสินใจส่งจดหมายลาออกโดยสมัครใจเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม" บัง แจ-ซึง ตัวแทนกลุ่มแพทย์อาวุโสกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันเสาร์
"แต่เราขอยืนยันว่า จะทำหน้าที่ของตนอย่างดีที่สุด จนกว่ากระบวนการลาออกจะเสร็จสมบูรณ์ เช่นเดียวกับที่ทำมาตลอดจนถึงตอนนี้" เขากล่าวเสริม โดยไม่ได้เปิดเผยจำนวนแพทย์ที่คาดว่าจะลาออกจากงานในวันที่ 25 มีนาคม
กระทรวงสาธารณสุขเองก็ยืนยันก่อนหน้านี้ว่า แผนการปฏิรูปนั้นต้องดำเนินต่อไป และรัฐบาลจะไม่หวั่นไหวต่อการกดดันที่เอาชีวิตและสุขภาพของผู้คนมาเป็นเครื่องต่อรอง
แผนปฏิรูปของรัฐบาลมุ่งเพิ่มจำนวนนักเรียนแพทย์เพิ่มขึ้นอีก 65% หรือ 2,000 คนต่อปี โดยจะเริ่มตั้งแต่ปี 2568 เพื่อให้หลุดพ้นจากการมีอัตราส่วนแพทย์ต่อประชากรต่ำที่สุดในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่บรรดาแพทย์เชื่อว่าการกำหนดตัวเลข 2,000 คนนั้นมากเกินไป และจะกระทบต่อคุณภาพการบริการและการศึกษาทางการแพทย์จากการทุ่มบุคลากรเข้าสู่ระบบโดยไม่พิจารณาสถานการณ์จริง
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บรรดาแพทย์ฝึกหัดได้ส่งจดหมายขอการแทรกแซงฉุกเฉินจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) โดยอ้างว่าพวกเขาถูกรัฐบาลบีบบังคับให้เป็นแรงงานโดยไม่พึงประสงค์ ซึ่งรัฐบาลปฎิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
ทั้งนี้ นโยบายปฎิรูปของรัฐบาลได้รับเสียงตอบรับที่ดีในหมู่ประชาชน ซึ่งส่วนใหญ่รู้สึกเบื่อหน่ายกับการรอคิวยาวที่โรงพยาบาล แต่ประชาชนส่วนหนึ่งต้องการให้ทั้งสองฝ่ายเริ่มเจรจาหาทางออกอย่างเหมาะสม.
