ตำรวจปินส์บุกทลายแหล่งอาชญากรรมไซเบอร์ ช่วยหลายร้อยคนจากการค้ามนุษย์

ชาวต่างชาติหลายร้อยคนถูกช่วยไว้ได้จากแก๊งค้ามนุษย์ หลังตำรวจฟิลิปปินส์บุกทลายศูนย์บัญชาการอาชญากรรมไซเบอร์ในกรุงมะนิลา

เจ้าหน้าที่ตำรวจฟิลิปปินส์กำลังพูดคุยกับชาวต่างชาติที่ช่วยเหลือไว้ได้หลังการบุกตรวจค้นอาคารหลังหนึ่งในเมืองบัมบัง จังหวัดตาร์ลัค ทางตอนเหนือของกรุงมะนิลา เมื่อวันที่ 14 มีนาคม มีผู้ต้องสงสัย 8 คนถูกจับกุมในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวและค้ามนุษย์ (Photo by Philippines' Presidential Anti-Organized Crime Commission (PAOCC) / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม 2567 กล่าวว่า ตำรวจฟิลิปปินส์บุกทลายแหล่งกบดานซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ในกรุงมะนิลา และพบชาวต่างชาติหลายร้อยคนถูกบังคับให้ทำงานในศูนย์ดังกล่าว

ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้จากที่เกิดเหตุจำนวน 8 คน โดยได้เบาะแสจากข้อมูลของชายชาวเวียดนามคนหนึ่งซึ่งหลบหนีออกจากศูนย์แห่งนี้และไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่

หน่วยงานตำรวจมะนิลาแถลงว่า พวกเขาสามารถหยุดยั้งปฏิบัติการหลอกลวงออนไลน์และช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ที่ถูกบังคับให้ดำเนินการดังกล่าวไว้ได้

"กลุ่มชาวต่างชาติที่ได้รับการช่วยเหลือให้ข้อมูลว่า พวกเขาถูกบังคับให้ทำการหลอกลวงด้วยความรักในรูปแบบโรแมนซ์สแกม, ล่อลวงให้ลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล และกิจกรรมหลอกลวงประเภทอื่นๆ โดยกลุ่มอาชญากรยึดหนังสือเดินทางของพวกเขาไว้ จึงทำให้ไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้" หน่วยงานฯกล่าว

ทั้งนี้ ตำรวจพบชาวจีน 432 คน, ชาวฟิลิปปินส์ 371 คน, ชาวเวียดนาม 57 คน, ชาวมาเลเซีย 8 คน, ชาวไต้หวัน 3 คน, ชาวอินโดนีเซีย 2 คน และชาวรวันดา 2 คน ในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นอาคารเอนกประสงค์ขนาด 10 เฮกตาร์ (62.5 ไร่) ในเขตบัมบัง และจดทะเบียนเป็นบริษัทเกมอินเทอร์เน็ต

ศูนย์หลอกลวงออนไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีจำนวนเพิ่มขึ้นมากในระยะหลัง โดยกลุ่มอาชญากรได้ล่อลวง, ลักพาตัว หรือบีบบังคับผู้คนให้ดำเนินกิจกรรมออนไลน์เพื่อหลอกลวงเหยื่อ

ข้อมูลของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติระบุว่า อุตสาหกรรมการหลอกลวงกำลังสร้างความเสียหายมหาศาลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งเทียบเท่ากับมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์

ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ในอุตสาหกรรมนี้มักเดินทางข้ามภูมิภาคไปยังดินแดนหนึ่งในรูปแบบการล่อลวงด้วยความรักปลอมๆหรือล่อลวงด้วยการเสนองานที่ได้ค่าตอบแทนสูง แต่สุดท้ายกลับพบว่าตนเองถูกบังคับให้หลอกลวงคนอื่นให้นำเงินเข้าสู่แพลตฟอร์มการลงทุนปลอมและกลอุบายอื่นๆ และมักจะถูกขู่ทำร้ายร่างกายหรือลงโทษในหลายรูปแบบ หากไม่ทำตาม

ล่าสุด ผู้ถูกควบคุมตัวทั้ง 8 คนได้รับการตั้งข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวและการค้ามนุษย์ โดยรายงานระบุว่ากลุ่มคนเหล่านี้อาจเป็นชาวจีน

นอกจากนี้ ตำรวจยังระบุว่าชาวฟิลิปปินส์ที่พบในสถานที่ดังกล่าว จะได้รับการปล่อยตัวโดยไม่ตั้งข้อหา เนื่องจากพวกเขาอยู่ที่นั่นเพียงเพื่อทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงหรือรักษาความปลอดภัย และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับอาชญากรรม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ละเอียดยิบ! ครม.รับทราบผลงานปราบอาชญากรรมออนไลน์ในช่วง 30 วัน

นางสาว ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี มีมติรับทราบ ผลการดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 5/2567 โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

19 เหยื่อค้ามนุษย์ วอนนายกฯช่วยด่วน ถูกกักขังทรมานอยู่ในแหล่งอาชญากรรมริมน้ำเมยฝั่งพม่า

ความคืบหน้ากรณีที่เครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ (Civil Society Network for Victim Assistance in Human Trafficking) ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย และหน่วยงานต่างๆของไทย

จี้ไทยเร่งประสานช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ 110 รายในเมืองเมียวดี

เครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย และหน่วยงานต่างๆของไทย อ

ตามจับรถ 2 คัน ขนแรงงานโรฮิงญาทิ้งกลางป่า ดับ 3 ศพ สาหัส 10 คน

จากกรณีมีพระสงฆ์วัดเสกขาราม พบชาวโรฮิงญาจำนวน 26 คน ถูกแก๊งค้าแรงงานมนุษย์ ลักลอบขนมากับรถกระบะตู้ทึบ ระหว่างทางขาดอากาศหายใจมีอาการอ่อนเพลีย ชักดิ้นชักงอ ทุรนทุรายใกล้ตาย คนขับได้นำชาวโรงฮิงยาทั้งหมดเข้าไปทิ้งนอนรอความตายในป่าละเมาข้างเชิงเขาวัดเสกขาราม