WHO ชี้โอมิครอนยังเสี่ยงสูงมาก ฝรั่งเศส-สหรัฐติดเชื้อทำสถิติสูงสุด

อนามัยโลกเตือนว่า โควิดสายพันธุ์โอมิครอนยังมีความเสี่ยง "สูงมาก" และอาจทำให้คนไข้ล้นเกินการรองรับของระบบรักษาพยาบาล ขณะฝรั่งเศส, อังกฤษ, สหรัฐ และอีกหลายชาติมีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากเป็นสถิติ ฝรั่งเศสติดเชื้อวันเดียวเกือบ 180,000 ราย สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของยุโรป

แฟ้มภาพ ชาวฝรั่งเศสนั่งรอฉีดวัคซีนภายในสนามแข่งจักรยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2564 (Getty Images)

รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันพุธที่ 29 ธันวาคม 2564 กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 และทำให้รัฐบาลหลายประเทศตั้งแต่จีน, เยอรมนี จนถึงฝรั่งเศส ต้องหาทางสร้างสมดุลอย่างยากลำบากระหว่างการใช้ข้อบังคับควบคุมโรคระบาด กับการเปิดเศรษฐกิจและสังคมไว้ต่อไป

เมื่อวันอังคาร เนเธอร์แลนด์และสวิตเซอร์แลนด์เป็นอีก 2 ประเทศที่ประกาศว่า โอมิครอนเป็นสายพันธุ์หลักแทนที่เดลตาแล้ว ขณะที่ทางการสหรัฐโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ปรับแก้ตัวเลขอัตราผู้ติดเชื้อโอมิครอนในสหรัฐลดลงเหลือ 59% จากที่เคยรายงานว่ามีผู้ติดไวรัสสายพันธุ์นี้คิดเป็น 73%

รายงานสถานการณ์การระบาดวิทยาประจำสัปดาห์ขององค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) จากนครเจนีวาเมื่อวันพุธ กล่าวเตือนว่า ความเสี่ยงโดยรวมที่เกี่ยวข้องกับโอมิครอน ที่เป็นไวรัสสายพันธุ์น่ากังวลสายพันธุ์ใหม่ ยังคงมีสูงมาก มีหลักฐานอย่างต่อเนื่องที่แสดงให้เห็นว่าโอมิครอนมีอัตราการเติบโตมากกว่าเดลตาเร็วขึ้น 2 เท่า ราว 2-3 วัน

ดับเบิลยูเอชโอกล่าวด้วยว่า ข้อมูลจากอังกฤษ, แอฟริกาใต้ และเดนมาร์ก ซึ่งขณะนี้มีอัตราการติดเชื้อต่อประชากรมากที่สุดในโลก บ่งชี้ว่า การติดเชื้อโอมิครอนมีความเสี่ยงในการรักษาในโรงพยาบาลลดลง เมื่อเทียบกับเดลตา แต่ยังจำเป็นต้องรอข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจความรุนแรงของสายพันธุ์นี้

แคธรีน สมอลล์วูด ผู้จัดการด้านอุบัติการณ์โควิดของดับเบิลยูเอชโอประจำยุโรป กล่าวว่า แม้จะมีผลการศึกษาดังกล่าว แต่การเติบโตอย่างรวดเร็วของโอมิครอนจะส่งผลให้มีผู้ป่วยเข้ารักษาในโรงพยาบาลจำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน และจะก่อผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อระบบดูแลสุขภาและบริการที่จำเป็นอื่นๆ

ขณะนี้หลายประเทศในยุโรปรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นเป็นสถิติสูงสุดนับแต่เริ่มมีการแพร่ระบาด ทั้งฝรั่งเศส, อังกฤษ, กรีซ และโปรตุเกส มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นรายวันสูงสุดเมื่อวันอังคาร โดยเฉพาะฝรั่งเศส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ยืนยันแล้ว 179,807 ราย ทำลายสถิติเก่าเมื่อวันเสาร์ซึ่งมี 104,611 ราย และเป็นสถิติสูงสุดรายวันของยุโรปตามข้อมูลจาก Covidtracker.fr. โดยปัจจุบันมีเพียงสหรัฐอเมริกาและอินเดียแค่ 2 ประเทศที่มีอัตราเฉลี่ยผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเกิน 200,000 คน

สถิติรายวันเดิมของฝรั่งเศสเคยสูงสุด 86,852 คนเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2563 และเพิ่งถูกทำลายลงเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว จากการมีผู้ติดเชื้อมากกว่าวันละ 90,000 คน สองวันติดต่อกัน

ส่วนอังกฤษมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เมื่อวันอังคารเป็นสถิติ 129,471 ราย แต่ข้อมูลนี้จะยังไม่รวมตัวเลขจากสกอตแลนด์และไอร์แลนด์เหนือ ที่ใช้ระเบียบวิธีรายงานตัวต่างกันช่วงวันหยุดคริสต์มาส

สหรัฐอเมริกาก็มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงเป็นประวัติการณ์เช่นกัน บีบีซีอ้างข้อมูลจากซีดีซีเมื่อวันอังคาร ระบุว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่เมื่อวันจันทร์ที่ 27 ธ.ค. มี 441,278 คน ขณะที่รอยเตอร์รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหรัฐว่ามีมากกว่า 505,000 คน

จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นไม่หยุดทำให้หลายประเทศในยุโรปกลับมาใช้มาตรการเข้มงวดอีกครั้ง เยอรมนีจำกัดการติดต่อกันโดยสั่งปิดไนต์คลับและห้ามมีผู้ชมในสนามกีฬา และจำกัดการรวมตัวตามบ้านไว้ไม่เกิน 10 สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว และแค่ 2 คน หากมีคนที่ไม่ฉีดวัคซีนรวมอยู่ด้วย

ฟินแลนด์ประกาศเมื่อวันอังคาร ห้ามนักเดินทางชาวต่างชาติที่ยังไม่ฉีดวัคซีนเข้าประเทศ ยกเว้นเฉพาะผู้ที่มีถิ่นพำนัก, ผู้ทำงานที่จำเป็น หรือนักการทูต ส่วนสวีเดนกำหนดว่า ผู้ที่เดินทางเข้าที่ไม่ใช่ผู้พักอาศัยในประเทศต้องมีผลตรวจโควิดเป็นลบ เป็นมาตรการแบบเดียวกับที่เดนมาร์กประกาศใช้ตั้งแต่วันจันทร์

ฝรั่งเศสประกาศขยายคำสั่งปิดไนต์คลับต่อไปอีก 3 สัปดาห์เมื่อวันพุธ หลังจากผู้ติดเชื้อรายวันสร้างสถิติใหม่ ก่อนหน้านี้รัฐบาลมีมาตรการทั้งจำกัดจำนวนการรวมตัว, ห้ามการกินหรือดื่มในระบบขนส่งมวลชน, บังคับสวมหน้ากากเมื่ออยู่นอกอาคาร และยังขอให้ทำงานจากบ้านสัปดาห์ละอย่างน้อย 3 วันตั้งแต่ต้นปีหน้า.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดข้อมูล ‘ไวรัสโควิด’ สร้างได้ในห้องทดลอง มีจดสิทธิบัตรตั้งแต่ปี 2018

การสร้างไวรัสใหม่ชนิดนี้จะสามารถครอบคลุมไวรัสที่จะแพร่และเกิดโรคระบาดในมนุษย์ได้ทั้งสิ้น และสามารถที่จะสร้างวัคซีนให้มนุษย์ก่อนได้

'อดีตปธ.กมธ.คมนาคม' บี้ถอดบทเรียนบัสมรณะ เร่งสร้างจิตสำนึกคนขับ-เข้มใช้กม.

'อดีตปธ.กมธ.คมนาคม' ชี้รายงานWHO ไทยครองอันดับ 1 อาเซียน เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน และอันดับ 9 ของโลก สาเหตุหลักคนขับรถประมาท แนะรัฐบาลถอดบทเรียนโศกนาฏกรรมบัสมรณะ

ศูนย์จีโนมฯ จับตาโอมิครอน KP.2.3/XEC ลูกผสมพันธุ์ใหม่ แพร่เร็วกว่าเดิม 2 เท่า

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า โอมิครอน KP.2.3/XEC : ลูกผสมสายพันธุ์ใหม่แพร่เร็วกว่าเดิม 2 เท่า

เปิดผลสอบ 'ฝีดาษลิง' ธรรมชาติรังสรรค์ หรือมนุษย์ประดิษฐ์!

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "การสอบสวนฝีดาษลิงธรรมชาติสร้างสรรค์หรือมนุษย์ประดิษฐ์"