อันวาร์ อิบราฮิมเตือนถึงความล้มเหลวที่จะเกิดขึ้นต่อประเทศต่างๆ ที่พยายามขัดขวางการเติบโตทางทหารและเศรษฐกิจของจีนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย กล่าวระหว่างงานบรรยายพิเศษที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียในกรุงแคนเบอร์รา เมื่อวันที่ 7 มีนาคม (Photo by DAVID GRAY / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม 2567 กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย ได้รับเชิญบรรยายพิเศษที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียในกรุงแคนเบอร์รา และมีโอกาสได้พูดถึงอิทธิพลจีนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ผู้นำมาเลเซียเชื่อว่า ประเทศต่างๆจะล้มเหลวในความพยายามขัดขวางการเติบโตทางทหารและเศรษฐกิจของจีนในภูมิภาคนี้
"รัฐบาลปักกิ่งจะมองว่าการต่อต้านและขัดขวางจีนไม่ให้ขยายตัวทางการทหารและเศรษฐกิจ เป็นการปฏิเสธความยิ่งใหญ่ของดินแดนในประวัติศาสตร์"
"อุปสรรคใดๆที่ขัดขวางความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของจีนจะยิ่งตอกย้ำความคับข้องใจดังกล่าวให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และกลายเป็นแรงผลักดันอย่างดีให้พวกเขาเดินหน้าไม่ถอย" อันวาร์ อิบราฮิมกล่าว และเสริมว่า สหรัฐอเมริกาเองก็พยายามแย่งชิงอิทธิพลในภูมิภาคนี้เช่นกัน ดังนั้นประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ควรปกป้องความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายระหว่างประเทศ และร่วมมือกันอย่างแน่นแฟ้นมากขึ้น
นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ (ASEAN-Australia Special Summit 2024) ที่จัดขึ้นในนครเมลเบิร์น และมีการหยิบยกประเด็นจุดยืนเชิงรุกของจีนในทะเลจีนใต้ขึ้นมาหารือ
จีนอ้างสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมดว่าเป็นอาณาเขตของตน และไม่แยแสการอ้างสิทธิ์แบบเดียวกันจากประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งเพิกเฉยต่อคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศที่ว่าคำกล่าวอ้างแต่เพียงฝ่ายเดียวไม่มีผลทางกฎหมาย
สัปดาห์นี้ เพิ่งมีเหตุเรือของจีนในหมู่เกาะสแปรตลีย์ถูกกล่าวหาว่าไล่ล่าเรือของฟิลิปปินส์ ขณะที่จีนกล่าวหาสหรัฐฯ กลับว่า ใช้ฟิลิปปินส์เป็น "เบี้ย" ในภูมิภาค
อันวาร์ อิบราฮิมยืนกรานว่า เขาไม่ได้เสนอแนะประเทศต่างๆให้เมินเฉยต่อการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
"ความรู้สึกแง่ลบและลางสังหรณ์ไม่ดีได้แทรกซึมเข้าไปในวาทกรรมเกี่ยวกับอนาคตของภูมิภาคเรา" เขากล่าว โดยสื่อถึงความแตกต่างกับการมองโลกในแง่ดีก่อนหน้านี้ในช่วงเปลี่ยนศตวรรษที่ว่าการค้าเสรีจะช่วยสร้างพันธมิตรและผลักดันการแข่งขันทางการค้าในระดับที่เหมาะสม
"โลกาภิวัตน์กำลังตกอยู่ภายใต้การโจมตีอย่างชัดเจน การพึ่งพาซึ่งกันและกันทางเศรษฐกิจในเวลานี้ถูกมองว่าเป็นการบ่งชี้ถึงการถูกข่มขู่ หรือที่แย่กว่านั้นคือการต้องเผชิญความยากลำบากภายใต้แรงกดทับของการบีบบังคับ"
"สำหรับบางประเทศ การรักษาเสถียรภาพถือเป็นแนวทางที่เข้มแข็งต่อกิจการระหว่างประเทศ" เขากล่าว
ผู้นำมาเลเซียซึ่งจะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปีหน้า กล่าวว่า สถาบันพหุภาคี เช่น กลุ่มสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ จำเป็นต้องรับประกันว่าภูมิภาคจะมีความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงอำนาจ
"เราต้องลงทุนในสถาบันต่างๆ ที่จะช่วยให้เราปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างสงบสุข โดยไม่ปฏิเสธประเทศใดว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสมในเศรษฐกิจโลก"
"ความไม่แน่นอนครั้งใหญ่ในโลกแสดงให้เห็นแล้วว่าการมีกฎหมายที่เข้มแข็งและเป็นที่ยอมรับในระดับสากลเป็นสิ่งจำเป็น เช่นเดียวกับสถาบันพหุภาคีที่ทันต่อเหตุการณ์โลกในทุกๆช่วงเวลา" เขากล่าว
ผู้นำมาเลเซียยังตำหนิชาติตะวันตกในกรณีประณามการรุกรานยูเครนของรัสเซีย แต่กลับนิ่งเงียบต่อการนองเลือดอย่างไม่หยุดยั้งที่เกิดขึ้นกับผู้ชาย, ผู้หญิง และเด็กผู้บริสุทธิ์ในฉนวนกาซา
"การตอบสนองที่แตกต่างกันของชาวตะวันตกต่อความทุกข์ทรมานของมนุษย์นั้นท้าทายมโนธรรมอย่างยิ่ง และได้เผยให้เห็นธรรมชาติของการรับใช้ตนเองที่โอ้อวดว่าเป็นมาตรฐานของโลก" อันวาร์ อิบราฮิมทิ้งท้าย.