ตำรวจเกาหลีใต้เริ่มกระบวนการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการนัดหยุดงานของแพทย์ทั่วประเทศ โดยเรียกตัวแพทย์คนหนึ่งมาสอบปากคำ ในขณะที่รัฐบาลอนุมัติงบฉุกเฉินหลายล้านดอลลาร์เพื่อบรรเทาความขัดข้องในการให้บริการ
จูซูโฮ โฆษกของสมาคมการแพทย์แห่งเกาหลี (กลาง) กล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างการชุมนุมของแพทย์ที่คัดค้านแผนการปฎิรูปของรัฐบาล ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม (Photo by Jung Yeon-je / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 6 มีนาคม 2567 กล่าวว่า แพทย์ฝึกหัดเกือบ 10,000 คนได้ลาออกจากงานและนัดหยุดงานตั้งแต่สัปดาห์ก่อน เพื่อประท้วงแผนการของรัฐบาลเกาหลีใต้ที่จะเพิ่มจำนวนนักศึกษาในโรงเรียนแพทย์อย่างปัจจุบันทันด่วนเพื่อรับมือกับการขาดแคลนและสังคมสูงวัย
การนัดหยุดงานจำนวนมากส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของโรงพยาบาล ส่งผลให้รัฐบาลยกระดับการแจ้งเตือนด้านสาธารณสุขไปสู่ระดับสูงสุด
รัฐบาลใช้อำนาจตามกฎหมายสั่งให้แพทย์กลับมาทำงานโดยเร็วที่สุดแม้พ้นเส้นตายมาแล้ว และได้ขอให้ตำรวจสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องกับการหยุดงานดังกล่าว พร้อมขู่ดำเนินคดีและระงับใบอนุญาตทางการแพทย์ของแพทย์ที่นัดหยุดงาน
ประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล กล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันพุธว่า การหยุดงานประท้วงของแพทย์ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอันละเมิดสิทธิในชีวิตของประชาชน และเสริมว่ารัฐบาลจะใช้งบประมาณฉุกเฉินจำนวน 96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,400 ล้านบาท) เพื่อลดความขัดข้องในการให้บริการและจัดการการรักษาฉุกเฉินอย่างมีเสถียรภาพ
กระทรวงการคลังกล่าวว่า งบประมาณดังกล่าวจะนำไปใช้จ่ายเป็นค่าทำงานล่วงเวลาของบุคลากร, เป็นค่าใช้จ่ายในการส่งแพทย์ทหารไปยังโรงพยาบาลพลเรือน หรือการจ้างเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ชั่วคราว
สมาคมการแพทย์แห่งเกาหลี (KMA) ซึ่งเป็นแกนนำของการประท้วง อ้างว่าการปฏิรูปทางการแพทย์ของรัฐบาลจะกัดกร่อนคุณภาพการให้บริการ จึงสนับสนุนการหยุดงานของแพทย์เพื่อให้รัฐบาลยกเลิกนโยบายดังกล่าว
ตำรวจเกาหลีใต้ได้บุกเข้าไปในสำนักงานของสมาคมการแพทย์ฯเมื่อวันศุกร์ และสมาชิกระดับสูงถูกฟ้องร้องฐานละเมิดกฎหมายการแพทย์ พร้อมคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
จูซูโฮ โฆษกของสมาคมการแพทย์แห่งเกาหลี ถูกตำรวจเรียกสอบปากคำเป็นรายแรก พร้อมตั้งข้อหาช่วยเหลือและสนับสนุนการประท้วงที่ผิดกฎหมาย
"ผมเดินทางมาให้ปากคำโดยปราศจากความกังวลใดๆ เพราะไม่มีอะไรต้องปิดบัง การกระทำทุกอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา" ศัลยแพทย์วัย 65 ปี กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนจะเดินเข้าไปข้างในสถานีตำรวจนครบาลกรุงโซล
"ข้อหาสนับสนุนการประท้วงคงไม่อาจกล่าวโทษได้จริง เพราะเราไม่เคยยุยง, ส่งเสริม หรือบังคับให้เหล่าแพทย์นัดหยุดงานและเดินขบวนประท้วง" เขากล่าว และเสริมว่าการเดินขบวนของแพทย์นั้นเป็นเพียงแค่การรวมตัวส่งเสียงให้รัฐบาลยอมละทิ้งความดื้อรั้นและหันมาเจรจา
การเรียกสอบปากคำในวันพุธถือเป็นการสอบสวนครั้งแรกของตำรวจต่อบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการหยุดงานประท้วงของแพทย์ฝึกหัดที่กำลังดำเนินอยู่
การปฏิรูปของรัฐบาลมุ่งเพิ่มจำนวนนักเรียนแพทย์เพิ่มขึ้นอีก 65% หรือ 2,000 คนต่อปี โดยจะเริ่มตั้งแต่ปี 2568 เพื่อให้หลุดพ้นจากการมีอัตราส่วนแพทย์ต่อประชากรต่ำที่สุดในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว
"เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตอบโต้อย่างรุนแรงต่อการกระทำผิดกฎหมายโดยรวมที่ใช้ชีวิตผู้คนเป็นตัวประกัน"
"ดังที่ผมได้เน้นย้ำมาหลายครั้งแล้ว การปฏิรูปทางการแพทย์เป็นงานที่ไม่อาจล่าช้าได้อีกต่อไป" ประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอลกล่าว
แม้จะมีคำขู่เรื่องการระงับใบอนุญาต แต่แพทย์ฝึกหัดจำนวนมากก็ยังไม่กลับมาทำงานตามเดิม โดยตัวเลขล่าสุดเมื่อวันจันทร์ แพทย์ฝึกหัดเกือบ 9,000 คนยังคงหยุดงานประท้วง ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา.