เอ็นริเก มานาโล รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ เรียกร้องจีนให้ร่วมแก้ไขข้อพิพาททางทะเลอย่างสันติ และหวังให้รัฐบาลปักกิ่งหยุดการกระทำคุกคาม
เอ็นริเก มานาโล รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ กล่าวระหว่างเปิดการประชุมสุดยอดออสเตรเลีย-อาเซียน ที่เมลเบิร์น เมื่อวันที่ 4 มีนาคม (Photo by William WEST / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 4 มีนาคม 2567 กล่าวว่า นอกรอบการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลียในเมลเบิร์น เอ็นริเก มานาโล รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ได้กล่าวปกป้องนโยบายของรัฐบาลในการแฉว่าจีนทำการซ้อมรบในพื้นที่พิพาททางทะเล รวมถึงการใช้เรือรบแล่นผ่านบริเวณสันดอนสการ์โบโรห์เมื่อไม่นานมานี้
"สิ่งที่เราทำเป็นเพียงการพยายามแจ้งให้ผู้คนทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และอย่างน้อยบางประเทศหรือประเทศใดประเทศหนึ่งก็รู้สึกกังวลกับเรื่องดังกล่าว"
"แต่คำอธิบายง่ายๆ ของเราคือ หากจีนหยุดคุกคามเรา บางทีเราอาจดำเนินการอย่างอื่นอย่างใด รวมทั้งการไม่นำเสนอเรื่องราวของพวกเขาอีกต่อไป" มานาโลกล่าว
จีนอ้างสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมดว่าเป็นอาณาเขตของตน และไม่แยแสการอ้างสิทธิ์แบบเดียวกันจากประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สันดอนสการ์โบโรห์ เป็นพื้นที่สามเหลี่ยมที่ประกอบด้วยแนวปะการังและหินในทะเลจีนใต้ กลายเป็นข้อพิพาทระหว่างประเทศต่างๆ นับตั้งแต่จีนยึดพื้นที่ดังกล่าวมาจากฟิลิปปินส์ในปี 2555
รัฐบาลฟิลิปปินส์พยายามระดมความช่วยเหลือจากนานาชาติและระดับภูมิภาคเพื่อระงับการอ้างสิทธิ์ของจีน แต่ก็ยังไม่ได้บทสรุปในระดับสากล
"ฟิลิปปินส์มุ่งมั่นที่จะคลี่คลายข้อพิพาทอย่างสันติด้วยวิธีการทางการทูตหรือสันติวิธี และรัฐบาลกำลังติดต่อกับประเทศพันธมิตรที่มีแนวคิด, ปัญหา และข้อกังวลคล้ายกัน" มานาโลกล่าว พร้อมยืนกรานว่าจะไม่ทำการใดๆที่กระทบต่อผลประโยชน์ของชาติ
แต่มานาโลยอมรับว่า ยังไม่มีเสียงตอบรับใดๆจากพันธมิตรด้านความมั่นคงที่สำคัญที่สุดของฟิลิปปินส์ นั่นก็คือสหรัฐฯ
ทั้งสองประเทศเป็นพันธมิตรตามสนธิสัญญา ซึ่งหมายความว่ารัฐบาลวอชิงตันจะปกป้องรัฐบาลมะนิลาในกรณีที่เกิดความขัดแย้งทางทหาร
อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในเดือนพฤศจิกายนที่จะเปิดโอกาสให้โจ ไบเดน ได้ปะทะกับโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นสิ่งที่ฟิลิปปินส์จับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะนโยบายความมั่นคงในต่างประเทศที่อาจเปลี่ยนไปจากเดิม และเชื่อแน่นอนว่าทุกสายตาจะจับจ้องไปที่การเลือกตั้งดังกล่าวเช่นเดียวกัน.