นักเคลื่อนไหวฮ่องกงได้จัดการประท้วงในที่สาธารณะเพื่อต่อต้านแผนบัญญัติกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่เชื่อว่าไม่เป็นประชาธิปไตยและละเมิดสิทธิมนุษยชน
สมาชิกสันนิบาตโซเชียลเดโมแครตชูป้ายข้อความว่า "หากปราศจากประชาธิปไตย ก็ไม่สามารถดำรงชีวิตได้ ให้ประชาชนอยู่เหนือประเทศ สิทธิมนุษยชนอยู่เหนือระบอบการปกครอง ความมั่นคงของชาติไม่อาจดำรงอยู่ได้หากปราศจากประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน" นอกสำนักงานรัฐบาลกลางในฮ่องกง เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ (Photo by Peter PARKS / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 กล่าวว่า นักเคลื่อนไหวฮ่องกงได้จัดการประท้วงในที่สาธารณะซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก เพื่อแสดงออกถึงการต่อต้านแผนของรัฐบาลที่จะบัญญัติกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่พวกเขามองว่าขาดการกำกับดูแลตามระบอบประชาธิปไตยและละเลยการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
การประท้วงในที่สาธารณะไม่ปรากฏอีกเลยบนเกาะแห่งนี้ นับตั้งแต่รัฐบาลปักกิ่งปราบปรามการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งใหญ่ในปี 2562 และบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติแบบครอบคลุม
รัฐบาลฮ่องกงจึงต้องการสานต่อนโยบายดังกล่าวด้วยการร่างกฎหมายความมั่นคงภายในประเทศเพิ่มเติมเพื่ออุดช่องโหว่ โดยพอล แลม รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมกล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาไม่ได้ยินเสียงคัดค้านใด ๆ ในระหว่างหนึ่งเดือนของการปรึกษาหารือสาธารณะซึ่งจะสิ้นสุดในวันพุธนี้
แต่หยู ไหวปัน นักเคลื่อนไหวจากสันนิบาตโซเชียลเดโมแครต (LSD) กล่าวกับเอเอฟพีเมื่อวันอังคารว่า ชาวฮ่องกงจำนวนมากค่อนข้างกังวล และไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐมนตรีฯถึงบอกว่าเขาไม่ได้ยินการคัดค้านหรือความกังวลดังกล่าวเลย
LSD เป็นหนึ่งในกลุ่มต่อต้านกลุ่มสุดท้ายที่เหลืออยู่ในฮ่องกง และสมาชิกของกลุ่มต้องเผชิญกับการดำเนินคดีหลายครั้งจากการแสดงความไม่เห็นด้วย
หยูและนักเคลื่อนไหวอีก 2 คนถูกรายล้อมไปด้วยสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกกว่า 12 นาย ขณะที่พวกเขาตะโกนสโลแกนนอกสำนักงานใหญ่ของรัฐบาลฮ่องกงเมื่อวันอังคาร
"ความมั่นคงของชาติมีความสำคัญต่อประชาชน แต่ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของประชาธิปไตย, เสรีภาพ และหลักนิติธรรม" กลุ่มนักเคลื่อนไหวกล่าว
แม้รัฐบาลอ้างอิงต้นแบบของสหรัฐอเมริกาและอังกฤษในการปกป้องกฎหมายที่เสนอ แต่นักเคลื่อนไหวกล่าวว่าการเปรียบเทียบแบบนั้นยิ่งสร้างความเข้าใจผิด เนื่องจากฮ่องกงไม่ใช่ดินแดนประชาธิปไตยเต็มใบ และการปรึกษาหารือสาธารณะนานหนึ่งเดือนเกี่ยวกับกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ หรือที่เรียกว่ามาตรา 23 ของกฎหมายพื้นฐาน ส่วนใหญ่จำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มคนที่สนับสนุนรัฐบาลปักกิ่งเท่านั้น
มีรายงานว่า สัปดาห์ที่แล้วเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนที่กำกับดูแลฮ่องกง เดินทางมาถึงอดีตอาณานิคมของอังกฤษและพบปะกับผู้นำในด้านธุรกิจและการเมือง พร้อมหารือเกี่ยวกับข้อเสนอกฎหมายความมั่นคงกับกลุ่มทนายความท้องถิ่น 2 กลุ่มในการประชุมแบบปิด ซึ่งสร้างความกังวลในเรื่องความโปร่งใสและการแทรกแซง.