จำคุก 20 เดือน กัปตัน-ต้นเรือทำน้ำมันรั่วลงทะเลมอริเชียส

ศาลมอริเชียสตัดสินจำคุกกัปตันและต้นเรือสินค้า เอ็มวี วากาชิโอะ คนละ 20 เดือน จากความผิดฐานก่ออันตรายต่อการเดินเรือ หลังจากเดินเรือประมาททำให้เรือชนแนวปะการังส่งผลให้น้ำมัน 1,000 ตันปนเปื้อนทะเลที่มีความสำคัญทางระบบนิเวศ

แฟ้มภาพ เรือเอ็มวี วากาชิโอะ เกยตื้นแนวปะการังใกล้อุทยานทางทะเลบลูเบย์ของมอริเชียส ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2563 สามสัปดาหลังเรือเกยตื้น (Photo AFP)

เอเอฟพีรายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม 2564 ว่าผู้พิพากษาไอดา ดุกกี รัมบาร์รัน แห่งศาลมอริเชียส มีคำพิพากษาในวันเดียวกัน ลงโทษจำคุกสุนิล กุมาร นันเดสวาร์ กัปตันเรือเอ็มวี วากาชิโอะ และฮิติฮานิลลาเก สุโภดา ชเนนทรา ติลาการัตนา ต้นเรือ คนละ 20 เดือน โดยผู้พิพากษาท่านนี้กล่าวว่า จำเลยทั้งสองยอมรับสารภาพผิดและขอโทษต่อความผิด

เรือสินค้าของญี่ปุ่นแต่จดทะเบียนปานามาลำนี้เกยตื้นนอกชายฝั่งมอริเชียสเมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 ส่งผลให้น้ำมันมากกว่า 1,000 ตันรั่วไหลลงทะเลบริสุทธิ์ คราบน้ำมันปกคลุมป่าโกงกาง, ปะการัง และระบบนิเวศที่เปราะบางของประเทศเกาะในมหาสมุทรอินเดียแห่งนี้

กัปตันเรือ ซึ่งถูกศาลในกรุงพอร์ตหลุยส์ตัดสินพร้อมกับต้นเรือเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่ามีความผิดฐาน "ก่ออันตรายต่อการเดินเรืออย่างปลอดภัย" ยอมรับสารภาพว่าดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างงานปาร์ตีฉลองวันเกิดบนเรือ

ผู้พิพากษากล่าวในคำตัดสินเมื่อวันจันทร์ว่า กัปตันและต้นเรือที่เป็นผู้ช่วยของเขาขาดความรับผิดชอบ และไม่ได้ทำหน้าที่ในการควบคุมการเดินเรืออย่างที่ควรทำ

เรือขนส่งสินค้าลำนี้กำลังนำน้ำมันเชื้อเพลิง 3,800 ตัน และน้ำมันดีเซล 200 ตัน จากสิงคโปร์ไปส่งยังบราซิล ระหว่างที่เรือแล่นมาถึงนอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของมอริเชียส กัปตันบอกว่าเขาได้สั่งให้เรือเข้าใกล้น่านน้ำมอริเชียสเพื่อให้มีสัญญาณโทรศัพท์ให้ลูกเรือสามารถติดต่อกับครอบครัวได้ แต่เรือเกยตื้นแนวปะการัง

นันเดสวาร์กล่าวว่า ทะเลไม่ดี แต่ทัศนวิสัยดีและเดินเรือได้ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งเรือไปต่อไม่ได้เพราะท้องเรือติดพื้นทะเล แต่เพราะตัวเขาดื่มไปเล็กน้อย จึงไม่เห็นควรว่าต้องเข้าไปแทรกแซง เพราะดูเหมือนว่าเรือไม่ได้แล่นเข้าใกล้ขนาดนั้น

การเกยตื้นที่ทำให้เกิดรอยแตกที่ตัวเรือ ส่งผลให้น้ำมันมากกว่า 1,000 ตัวรั่วลงสู่ทะเลที่อุดมด้วยสัตว์ทะเล ก่อนที่หน่วยกู้เรือจะสามารถขจัดน้ำมันที่ยังเหลืออยู่ในเรือออกได้หมด จุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กับแหล่งที่มีความสำคัญทางนิเวศวิทยาอย่างยิ่ง 2 แห่ง คือ สวนปะการังบลูเบย์ และป่าโกงกางพวงต์เดส์นี

หลายวันหลังเกิดเหตุ อาสาสมัครหลายพันคนช่วยกันทำความสะอาดคราบน้ำมันตลอดแนวชายฝั่ง ขณะที่ประชาชนหลายพันออกมาชุมนุมบนท้องถนนนานหลายเดือน เพื่อประท้วงการรับมือหายนภัยของรัฐบาล

สุดท้าย เรือลำนี้แตกเป็นสองเสี่ยง หัวเรือและตัวเรือถูกลากออกไปจากชายฝั่ง 15 กม.และจมลง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กู้สำเร็จ เรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ ลากออกฝั่งได้แล้ว หลังเกยตื้นหาดสงขลา 2 เดือน

ภารกิจกู้เรือภัทรพัณณ์ เรือบรรทุกน้ำมันปาล์มที่มาเกยตื้นบริเวณชายหาดปลายแหลมสนอ่อน แหลมสมิหลาสงขลา เสร็จสิ้นเมื่อคืนนี้(ที่ 21 ก.พ.66) ช่วงน้ำขึ้นสูงสุด โดยต้องระดมเรือทัก 7 ลำ

เปิดแผนกู้เรือบรรทุกน้ำมัน คลื่นซัดเกยตื้นแหลมสมิหลา คาดเสร็จไม่เกิน 17 ก.พ.นี้

คืบหน้าเรือภัทรพัณณ์เรือบรรทุกน้ำมันปาล์มที่ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นบริเวณชายหาดปลายแหลมสนอ่อน แหลมสมิหลาสงขลา บริษัทที่รับจ้างกู้เรือนำเรือบาสเครนขนาดใหญ่ 2 ลำมาดำเนินการนำโซ่สมอจากหัวเรือมาต่อกับสมอตัวใหญ่