ดินถล่มหมู่บ้านเหมืองทองในฟิลิปปินส์ เสียชีวิต 7 ราย

มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 รายและบาดเจ็บ 31 คนจากเหตุดินถล่มหมู่บ้านบริเวณเหมืองทองแห่งหนึ่งในพื้นที่ภูเขาทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์

ภาพถ่ายทางอากาศในบริเวณที่เกิดดินถล่มในจังหวัดดาเวา เด โอโร บนเกาะมินดาเนา ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 รายและบาดเจ็บ 31 คน (Photo by Renante Naparan / AFPTV / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 กล่าวว่า ฝนที่ตกหนักในฟิลิปปินส์เป็นเหตุให้เกิดดินถล่มที่เมืองมาซารา ในจังหวัดดาเวา เด โอโร บนเกาะมินดาเนา

กองดินมหาศาลจากภูเขาไหลลงมาถล่มทับทำลายบ้านเรือน, รถบัสขนาด 60 ที่นั่ง 3 คัน และรถจิ๊ปนีย์ขนาด 36 ที่นั่ง 1 คัน ที่หมู่บ้านในบริเวณเหมืองทองแห่งหนึ่ง

รถบัสและรถจี๊ปนีย์ซึ่งทำหน้าที่รับส่งคนงาน จอดอยู่ด้านนอกเหมืองทองคำที่ดำเนินการโดยบริษัทเอเพ็กซ์ ไมนิ่ง (Apex Mining) ของฟิลิปปินส์ ก่อนเกิดเหตุดินถล่มทับที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 รายและบาดเจ็บ 31 คน

ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งขุดดินโคลนเพื่อค้นหาผู้สูญหาย 48 คนซึ่งในจำนวนนี้มีอย่างน้อย 20 คนที่ติดอยู่ภายในยานพาหนะ ตามรายงานที่ระบุว่าตอนเกิดดินถล่มลงมา มีผู้คนอยู่บนยานพาหนะอย่างน้อย 28 คน แต่อีก 8 คนสามารถหลบหนีออกไปทางหน้าต่างได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่โคลนจะท่วมตัว

ทั้งนี้ ทีมกู้ภัยถูกระดมมาจากทั่วภูมิภาคเพื่อช่วยค้นหาผู้ประสบภัย เนื่องจากการขุดด้วยรถแบ็คโฮอาจเป็นอันตรายต่อผู้คนที่ติดอยู่ใต้โคลนที่ปกคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ สิ่งที่พึ่งพาได้ตอนนี้จึงมีแต่การใช้แรงงานคนในการขุดเท่านั้น

หน่วยงานกู้ภัยระบุว่า มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นในหมู่บ้านไม่นานหลังเกิดดินถล่ม ทำให้ภารกิจค้นหาถูกระงับในเวลาเที่ยงคืน เพราะอันตรายเกินกว่าที่จะทำต่อไป และจะกลับมาดำเนินการอีกครั้งในเวลากลางวัน

ขณะเดียวกัน หลายร้อยครัวเรือนจากมาซาราและหมู่บ้านใกล้เคียงอีก 4 แห่งถูกบังคับให้อพยพออกจากบ้านเพื่อมาหลบภัยชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงฉุกเฉิน

ดินถล่มถือเป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งทั่วฟิลิปปินส์ เนื่องมาจากมีภูมิประเทศเป็นภูเขา, ฝนตกหนัก และการตัดไม้ทำลายป่าเป็นวงกว้างจากการทำเหมือง, เกษตรกรรมแบบตัดแล้วเผา และการลักลอบตัดไม้

ก่อนหน้านี้ ฝนได้พัดถล่มพื้นที่บางส่วนของเกาะมินดาเนาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ซึ่งสำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติระบุในข้อมูลล่าสุดว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 18 รายจากเหตุดินถล่มและน้ำท่วมในภูมิภาค ในขณะที่ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและร่องความกดอากาศต่ำยังคงทำให้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชุมพรอ่วม! ฝนถล่มหนัก ดินถล่มทับบ้าน ถนนสายหลักฝั่งอ่าวไทยถูกตัดขาด

จากสถานการณ์ฝนตกหนักครอบคลุมในพื้นที่ จ.ชุมพร ทั้ง 8 อำเภอ ตั้งแต่วันที่ช่วงค่ำวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 14 ธันวาคม ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่การเกษตร

25 จังหวัด ศปช.เตือนเฝ้าระวัง 'ดินถล่ม - น้ำป่า'  

ศปช.รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันที่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี บ่ายนี้น้ำลดปกติแล้ว ส่งทุกหน่วยงานเข้าฟื้นฟู ส่วนอากาศจากจีนส่งไทยแปรปรวนยังคงต้องแจ้งเตือน 25 จังหวัดระวังดินถล่มและน้ำป่า  ทยอยจ่ายเงินเยียวยา ขณะที่เชียงรายล้างโคลนบ้านเรือน ปชช.พรุ่งนี้เสร็จเรียบร้อย

'ศปช.' สรุป 5 ข้อหลัก น้ำท่วมเชียงใหม่-เชียงราย ยันเป็นเหตุไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) แถลงผลการประชุมว่าที่ประชุมมีการประมวลวิเคราะห์สถานการณ์

ปภ.พังงา ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉิน 'ดินถล่ม-ตลิ่งทรุด' หลังฝนตกหนัก

นายกลวัชร ทรัพย์ส่งสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วย นายพีรพัฒน์ เงินเจริญ นายอำเภอเมืองพังงา นายสงบ สะโตน หัวหน้าสำนักงาน ปภ.จังหวัดพังงา