มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 รายจากเหตุระเบิด 2 ครั้งนอกสำนักงานผู้สมัครรับเลือกตั้งทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน ก่อนการลงคะแนนเสียงระดับชาติ ท่ามกลางความรุนแรงและข้อกล่าวหาว่าโกงการเลือกตั้ง
สภาพความเสียหายหลังเกิดเหตุระเบิดนอกสำนักงานผู้สมัครอิสระในเขตพิชิน ห่างจากเมืองเควตตาประมาณ 50 กิโลเมตร ก่อนการเลือกตั้งระดับชาติของปากีสถาน เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ (Photo by Banaras KHAN / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 กล่าวว่า เกิดความรุนแรงก่อนการเลือกตั้งทั่วไปของปากีสถาน เมื่อมีรายงานเหตุระเบิด 2 ครั้งนอกสำนักงานผู้สมัครรับเลือกตั้งทางตะวันตกเฉียงใต้ จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ
เจ้าหน้าที่ความมั่นคงมากกว่า 5 แสนนายถูกส่งไปประจำการก่อนการเลือกตั้งในวันพฤหัสบดี โดยทางการได้ขนย้ายบัตรลงคะแนนไปยังหน่วยเลือกตั้งมากกว่า 90,000 แห่งทั่วประเทศ
มีเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยเกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงก่อนการเลือกตั้ง โดยมีผู้สมัครอย่างน้อย 2 รายถูกยิงเสียชีวิต และอีกหลายสิบคนตกเป็นเป้าหมายการโจมตีทั่วประเทศ
ยัน อาชัคไซ รัฐมนตรีกระทรวงข้อมูลรักษาการณ์ประจำแคว้นบาลูจิสถานซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ กล่าวว่า "เป้าหมายของเหตุระเบิดในวันนี้คือการบ่อนทำลายการเลือกตั้ง และแม้ว่าวันนี้จะเกิดการระเบิด แต่ชาวบาลูจิสถานจะออกมาลงคะแนนเสียงในวันพรุ่งนี้โดยปราศจากความกลัวใดๆ"
ระเบิดแสวงเครื่องลูกแรกทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 รายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 25 คนใกล้กับสำนักงานผู้สมัครอิสระในเขตพิชิน ห่างจากเมืองเควตตาประมาณ 50 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากชายแดนอัฟกานิสถาน 100 กิโลเมตร
ระเบิดแสวงเครื่องลูกที่สองได้คร่าชีวิตผู้คนไป 12 รายใกล้กับสำนักงานการเลือกตั้งของผู้สมัครพรรคอิสลามิสต์ จาเมียต อูเลมา-เอ-อิสลาม-เอฟ (JUI-F) ในเมืองคิลลา ไซฟุลเลาะห์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของบาลูจิสถาน
แม้ยังไม่มีการออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุระเบิดเมื่อวันพุธ แต่แคว้นแห่งนี้เป็นที่ตั้งของกลุ่มติดอาวุธหลายกลุ่มที่ต่อสู้เพื่อส่วนแบ่งความมั่งคั่งที่ดีขึ้น และเป็นเป้าหมายการโจมตีของกลุ่มอิสลามิสต์มาตลอด
การเลือกตั้งปากีสถานซึ่งมีกำหนดเริ่มลงคะแนนเสียงในวันพฤหัสบดี เวลา 08.00 น. และปิดคูหาในเวลา 17.00 น. ถือเป็นการจัดการเลือกตั้งที่มีข้อครหามากมายเรื่องความไม่โปร่งใส ตั้งแต่การตัดสิทธิ์และจำคุกผู้สมัครบางราย เช่น กรณีของอดีตนายกรัฐมนตรีอิมรอน ข่าน
ปากีสถานเป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 5 ของโลกที่ตัวเลข 240 ล้านคน และมีผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงประมาณ 128 ล้านคน
มีผู้สมัครเกือบ 18,000 คนลงสมัครชิงที่นั่งในสภาระดับชาติและสภาระดับจังหวัด 4 แห่ง โดยมีที่นั่งส่วนกลางให้แย่งชิงโดยตรง 266 ที่นั่ง บวกกับ 70 ที่นั่งซึ่งสงวนไว้สำหรับผู้หญิงและชนกลุ่มน้อย และที่นั่งในรัฐสภาระดับภูมิภาคมี 749 ที่นั่ง
สถาบันปากีสถานเพื่อความขัดแย้งและความมั่นคงศึกษาซึ่งเป็นสถาบันวิจัยที่มีฐานอยู่ในกรุงอิสลามาบัด ระบุว่า มีการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจในปีที่ผ่านมา โดยมีการโจมตีเฉลี่ย 54 ครั้งต่อเดือน มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2558
ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า ผู้ใดก็ตามที่คว้าตำแหน่งผู้นำคนใหม่จะต้องเผชิญกับการบริหารประเทศที่มีการแบ่งแยกฝังรากลึก ในขณะที่เศรษฐกิจกำลังถดถอย
อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นเกือบ 30%, ค่าเงินรูปีร่วงลงอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการแทรกแซงมาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว และการขาดดุลการชำระเงินทำให้การนำเข้าชะงักงัน เป็นการขัดขวางการเติบโตของอุตสาหกรรมอย่างรุนแรง
นักวิเคราะห์การเมืองระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ทำให้ประชากรปากีสถานท้อแท้ที่สุดในรอบหลายปี
"บรรยากาศทางการเมืองก่อนการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกของปากีสถานนับตั้งแต่ปี 2561 ก็มีบรรยากาศที่ซบเซาไม่แพ้กับบรรยากาศทางเศรษฐกิจ ชาวปากีสถาน 7 ใน 10 คนขาดความมั่นใจในความซื่อสัตย์ของการเลือกตั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการถดถอยอย่างมีนัยสำคัญในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา" นักวิเคราะห์กล่าว.
