พายุหิมะโหมกระหน่ำโจมตีสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากสภาพอากาศแล้วอย่างน้อย 50 ราย ขณะที่พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศเตรียมพร้อมรับมือกับกำแพงฤดูหนาวครั้งใหม่
ผู้คนเดินผ่านเซ็นทรัลพาร์คในมหานครนิวยอร์กในขณะที่หิมะตกหนักกว่าปกติเพราะอิทธิพลจากพายุฤดูหนาว เมื่อวันที่ 19 มกราคม (Photo by ANGELA WEISS / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 20 มกราคม 2567 กล่าวว่า สภาวะแปรปรวนทางอากาศในสหรัฐอเมริกาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วหลายสิบราย และอาจเพิ่มขึ้นอีกเมื่ออุณหภูมิจะลดต่ำลงมากในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
พายุฝนฤดูหนาว บวกกับหิมะและน้ำแข็งหนาทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงตามท้องถนน, การเดินทางทางอากาศที่เลวร้าย, โรงเรียนปิดทำการ และหลายพันครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะที่ชาวอเมริกันอีกหลายล้านคนอยู่ภายใต้คำเตือนสภาพอากาศครั้งใหม่
ในรัฐเทนเนสซี มีผู้เสียชีวิตจากความหนาวเย็น 14 ราย ขณะที่ผู้หญิง 5 รายเสียชีวิตบนทางหลวงเพนซิลเวเนียเมื่อวันอังคารด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เพราะถนนลื่น
ในรัฐเคนตักกี มีผู้เสียชีวิตจากสภาพอากาศเลวร้าย 5 ราย ขณะที่ในรัฐโอเรกอน มีผู้เสียชีวิต 3 รายจากการถูกไฟฟ้าช็อตเพราะสายไฟล้มทับรถที่จอดอยู่ระหว่างเกิดพายุหิมะ
นอกจากนี้ พายุลูกดังกล่าวยังทำให้ประชาชนในโอเรกอนราว 75,000 รายไม่มีไฟฟ้าใช้เมื่อเย็นวันศุกร์ และด้วยสถานการณ์ที่บีบคั้นหนัก ผู้ว่าการรัฐฯจึงได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน
ยังมีรายงานผู้เสียชีวิตอีกจำนวนหนึ่งในรัฐอิลลินอยส์, แคนซัส, นิวแฮมป์เชียร์, นิวยอร์ก, วิสคอนซิน และวอชิงตัน โดยทั้งหมดได้รับอิทธิพลมาจากสภาพอากาศแปรรวน
สภาวะพายุหิมะเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ รวมถึงแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ, เทือกเขาร็อกกี และบางส่วนของนิวอิงแลนด์ โดยเฉพาะทางตะวันตกของนิวยอร์ก ซึ่งหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาระบุว่า มีหิมะตกหนาประมาณ 1.9 เมตรใกล้เมืองบัฟฟาโลในช่วง 5 วันนี้
อุณหภูมิที่หนาวเย็นยังขยายลึกเข้าไปในตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ไม่คุ้นเคยกับสภาพอากาศในฤดูหนาวเช่นนี้
ยิ่งไปกว่านั้น หลายพื้นที่ของประเทศอาจต้องเผชิญกับสภาวะที่โหดร้ายมากขึ้นในสุดสัปดาห์นี้
"อุณหภูมิลดต่ำและลมหนาวที่เป็นอันตรายจะเกิดขึ้นบริเวณที่ราบและหุบเขามิสซิสซิปปีทางตะวันออกของสหรัฐฯ" หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติระบุในการแจ้งเตือนครั้งล่าสุดเมื่อวันศุกร์
การเดินทางทางอากาศประสบกับความล้มเหลวครั้งใหญ่ในวันศุกร์เช่นกัน โดยเที่ยวบินในสหรัฐฯ มากกว่า 1,100 เที่ยวบินถูกยกเลิก และอีก 8,000 เที่ยวบินจำเป็นต้องล่าช้ากว่าดำหนดเดิม ตามข้อมูลของเว็บไซต์ Flightaware.com.