เกาหลีเหนือขู่ทำสงครามกับเกาหลีใต้ หากถูกละเมิดดินแดนแม้เพียง 0.001 มิลลิเมตร พร้อมประกาศยกเลิกหน่วยงานที่ดูแลความร่วมมือและการรวมประเทศ
คิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ (กลางซ้าย) เข้าร่วมการประชุมสมัชชาประชาชนสูงสุดครั้งที่ 14 (สมัชชาแห่งชาติ) ณ หอประชุมมันซูแดในกรุงเปียงยาง เมื่อวันที่ 16 มกราคม (Photo by KCNA VIA KNS / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 16 มกราคม 2567 กล่าวว่า สองเกาหลีส่อเค้าแตกแยกหนัก หลังคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือขู่ว่าจะทำสงครามกับเกาหลีใต้ หากถูกละเมิดดินแดนแม้เพียง 0.001 มิลลิเมตร พร้อมประกาศยกเลิกหน่วยงานที่ดูแลความร่วมมือและการรวมประเทศ
ผู้นำเกาหลีเหนือยังกล่าวอีกว่า รัฐบาลเปียงยางจะไม่ยอมรับพรมแดนทางทะเลโดยพฤตินัยของทั้งสองประเทศ อันหมายถึงเส้นจำกัดทางตอนเหนือ และเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญเพื่อให้รัฐนิวเคลียร์แห่งนี้สามารถทำการยึดครองรัฐทางใต้ได้ในสงคราม
ฟากฝั่งเกาหลีใต้ ประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล กล่าวกับคณะรัฐมนตรีของเขาว่า หากเกาหลีเหนือก่อการยั่วยุ เกาหลีใต้จะตอบโต้ด้วยกำลังที่แข็งแกร่งกว่าหลายเท่า โดยชี้ไปที่ความพร้อมในการรบของกองทัพแห่งรัฐ
วาทกรรมที่แสดงความเกลียดชังของสองชาติเกิดขึ้นภายหลังความสัมพันธ์ระหว่างกันที่ถดถอยลงอย่างมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยการปล่อยดาวเทียมสอดแนมของรัฐบาลเปียงยางเมื่อเดือนพฤศจิกายน ทำให้รัฐบาลโซลต้องระงับข้อตกลงทางทหารปี 2560 ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อคลายความตึงเครียด
การตัดสินใจของรัฐบาลเปียงยางที่จะทิ้งหน่วยงานดูแลความร่วมมือและการรวมตัวกับเกาหลีใต้อีกครั้งนั้น ได้รับการประกาศโดยรัฐสภาตรายางของเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการล่าสุดที่ยิ่งเพิ่มความตึงเครียด รวมถึงการฝึกซ้อมยิงปืนใหญ่ด้วยกระสุนจริงและการทดสอบขีปนาวุธ
ในการกล่าวสุนทรพจน์ที่สภาประชาชนสูงสุด คิมจิงอึนเรียกร้องให้ร่างมาตรการทางกฎหมายใหม่เพื่อกำหนดให้เกาหลีใต้เป็น "รัฐที่ไม่เป็นมิตรที่สุด" ตามรายงานของสำนักข่าวกลางเกาหลี (เคซีเอ็นเอ)
"ในความเห็นของข้าพเจ้า เราสามารถระบุในรัฐธรรมนูญของเราได้ในเรื่องของการยึดครองสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) โดยสมบูรณ์ และผนวกเป็นส่วนหนึ่งในอาณาเขตของสาธารณรัฐของเรา ในกรณีที่เกิดสงครามบนคาบสมุทรเกาหลี" คิมกล่าว และเสริมว่า "หากสาธารณรัฐเกาหลีละเมิดดินแดนไม่ว่าทางอากาศหรือน่านน้ำของเราแม้เพียง 0.001 มิลลิเมตร จะถือเป็นการยั่วยุให้เกิดสงคราม"
การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่คิมตราหน้าเกาหลีใต้ว่าเป็น "ศัตรูตัวฉกาจ" และระบุว่าการแสวงหาความปรองดองอย่างต่อเนื่องนั้นเป็น "ความผิดพลาด"
ทั้งนี้ในรัฐธรรมนูญของสองชาติ ทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ต่างอ้างอำนาจอธิปไตยเหนือคาบสมุทรทั้งหมด
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) และสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 75 ปีก่อน แต่ในทางเทคนิคแล้วยังถือว่าเป็นดินแดนเดียวกันที่แยกระบอบการปกครอง.