ยุโรปป่วนหนัก! หลายประเทศล็อกดาวน์สกัด 'โอมิครอน' ช่วงคริสต์มาส ยาวไปถึงช่วงเทศกาลปีใหม่

เนื่องจากสหราชอาณาจักรเริ่มมีตัวเลข ผู้ป่วยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งรัฐบาลสกอตแลนด์เองได้ตัดสินใจใช้มาตรการนี้เพื่อควบคุมการระบาดโดยไม่รอคำสั่งจากรัฐบาลกลางในลอนดอน โดยไนต์คลับจะเริ่มปิดลงชั่วคราวทั้งประเทศ ตั้งแต่ 05.00 น. ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เพื่อจัดการกับการโอมิครอน ซึ่งยังคงแพร่กระจายอย่าง รวดเร็ว

24 ธ.ค.2564 -สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน สถานการณ์การระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอนในทวีปยุโรป ล่าสุดหลายประเทศทยอยล็อกดาวน์ในวันคริสต์มาส ยาวไปถึงช่วงเทศกาลปีใหม่

แคว้นคาตาลุนญ่าของสเปน กลับมาใช้มาตรการเคอร์ฟิวในเวลากลางคืนอีกครั้ง เริ่มตั้งแต่วันคริสต์มาสอีฟ (24 ธันวาคม) เป็นต้นไป เพื่อสกัดกั้นการระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่พุ่งสูงขึ้นเป็น ประวัติการณ์ โดยศาลได้ออกคำสั่งให้มาตรการเริ่มใช้ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือแห่งนี้เป็นพื้นที่แรกของ สเปน ให้มีสถานะเคอร์ฟิวทุกคืน เพื่อรับมือต่อการระบาดที่เพิ่มขึ้นของโอมิครอน

มาตรการเคอร์ฟิวของทุกคืนจะมีขึ้นระหว่างเวลา 01:00 น. – 06:00 น. ในพื้นที่ที่มีอัตราการติดเชื้อเกิน 250 รายต่อประชากร 100,000 คน ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่บังคับใช้ทั่วทั้งภูมิภาค

นอกจากนี้ยังกำหนดปิดไนท์คลับ ปิดร้านอาหารในร่ม ให้มีผู้ใช้ได้ในความจุ 50 เปอร์เซ็นต์ และจำกัดผู้เข้าใช้ สถานออกกำลังกายในร่มและโรงภาพยนตร์ไว้ที่ 70 เปอร์เซ็นต์ เพื่อพยายามควบคุมการติดเชื้อในช่วงวันหยุด

มาตรการดังกล่าวจะเริ่มต้นในวันศุกร์และจะใช้ระยะเวลาทั้งหมด 15 วันต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลต่อการเฉลิมฉลอง ปีใหม่ของผู้คนส่วนใหญ่

ศาลกล่าวว่า มาตรการดังกล่าว มีขึ้นเพื่อสร้างสมดุลระหว่าง “การจำกัดสิทธิ” กับ “การคุ้มครองสุขภาพส่วน บุคคลและชุมชน”

อนึ่ง ประชากรของประเทศสเปนประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนประชากรทั้งหมด 47 ล้านคน ได้รับการฉีด วัคซีนครบโดสแล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูงที่สุดในโลก

รัฐบาลสกอตแลนด์ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่า จะปิดไนต์คลับตั้งแต่สัปดาห์หน้าเพื่อต่อสู้กับการ แพร่กระจายของของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

เนื่องจากสหราชอาณาจักรเริ่มมีตัวเลข ผู้ป่วยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งรัฐบาลสกอตแลนด์เองได้ตัดสินใจใช้มาตรการนี้เพื่อควบคุมการระบาดโดยไม่รอคำสั่งจากรัฐบาลกลางในลอนดอน โดยไนต์คลับจะเริ่มปิดลงชั่วคราวทั้งประเทศ ตั้งแต่ 05.00 น. ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เพื่อจัดการกับการโอมิครอน ซึ่งยังคงแพร่กระจายอย่าง รวดเร็ว

รัฐมนตรีช่วยว่าการ จอห์น สวินนีย์ กล่าวว่า การปิดไนต์คลับจะมาพร้อมกับมาตรการ เยียวยาทางการเงิน เพื่อช่วยเหลือกิจการกลางคืนเหล่านั้นในช่วงที่ปิดตัวลงชั่วคราว และจะผ่อน ปรนให้บางไนต์คลับยังคงเปิดได้หากให้บริการแบบจำกัดจำนวนโต๊ะและมีมาตรการเว้นระยะห่าง ทางสังคม

อนึ่ง ประเทศสหราชอาณาจักร มีรายงานการติดเชื้อใหม่ 106,122 รายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโอมิครอนมากที่สุดในยุโรป

ในส่วนของประเทศอื่นๆ ในสหราชอาณาจักร เช่น เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ ได้กำหนดมาตรการ ควบคุมการระบาดอย่างเข้มงวด ในขณะที่อังกฤษนั้น นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน กลับเลือก ที่จะไม่เพิ่มมาตรการเข้มงวดขึ้นในอังกฤษในช่วงเทศกาลคริสต์มาส โดยอ้างอิงผลการศึกษาวิจัย ที่ว่า การติดเชื้อโควิดโอมิครอน ไม่ส่งผลรุนแรงต่อสุขภาพมากขนาดต้องเข้ารับการรักษาใน โรงพยาบาลเมื่อเทียบกับสายพันธุ์เดลต้า

ปัจจุบัน ประชากรกว่า 30 ล้านคนในสหราชอาณาจักรได้รับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว และนายกรัฐมนตรีจอห์นสัน ตั้งเป้าหมายที่จะฉีดเข็มกระตุ้นให้กับประชากรทุกคนที่มีอายุ มากกว่า 18 ปี ให้ได้ทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้

ขณะที่กรีซ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (23 ธันวาคม) มาตรการบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยจะนำกลับมาใช้อีกครั้ง ทั้งการสวม ใส่ในบ้านและในพื้นที่สาธารณะ เพื่อจำกัดการแพร่กระจายของโควิดโอมิครอนในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ เริ่มมีตัวเลขประชากรที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยอาการหนักกว่า 600 ราย แต่รัฐบาลเองก็ ได้รับการต่อต้านจากนักวิชาการด้านสุขภาพ และการเคลื่อนไหวประท้วงจากกลุ่มผู้ที่ฉีดวัควีนครบโดสแล้วที่ไม่ ยินยอมกับการถูกบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยอีกครั้ง

“มีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในช่วงเทศกาล และผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกันกลางแจ้ง” ธานอส เปลวริส รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข กล่าวกับผู้สื่อข่าว

“ตั้งแต่เวลา 04.00 น. GMT ของวันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม มาตรการสวมหน้ากากอนามัยจะมีผลบังคับใช้ในพื้นที่ ทั้งในร่มและกลางแจ้งทั้งหมด” เขากล่าว พร้อมเสริมว่ามาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ไปจนถึง 2 มกราคม เป็นอย่างน้อย

เทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่แบบสาธารณะทั้งหมดถูกยกเลิกทั้งประเทศกรีซ และนักท่องเที่ยวที่เข้ามา ในประเทศจะต้องถูกตรวจโควิดในวันที่สองและสี่หลังจากเดินทางมาถึง แม้ว่าจะมีการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 16.5 ล้านโดส ซึ่งรวมถึงการฉีดเข็มกระตุ้นอีกเกือบ 3 ล้านโดส แต่ กรีซเองก็ยังประสบปัญหาในการชักชวนให้ประชาชนที่มีอายุมากกว่า 60 ปีมาฉีดวัคซีน จนต้องออกกฎให้มี การเสียค่าปรับ 100 ยูโร หากประชากรสูงวัยเหล่านั้นไม่ยอมมาฉีดวัคซีน ก่อนกลางเดือนมกราคม 2022.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เอาแน่ 'คมนาคม' เร่งศึกษาค่าธรรมเนียมรถติด

“คมนาคม” เดินเครื่องศึกษามาตรการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด เปิดโมเดล 4 ประเทศ “อังกฤษ-สิงคโปร์-สวีเดน-อิตาลี” พบช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัดอย่างเป็นรูปธรรม ด้าน สนข. เร่งศึกษาอย่างละเอียดรอบคอบ ชี้ช่วยดึงดูดประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น เชื่อมระบบฟีดเดอร์-ขนส่งหลัก หนุนนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย

ปฏิกิริยาที่หลากหลายในรัฐสภาสหภาพยุโรปต่อชัยชนะของ 'โดนัลด์ ทรัมป์'

ชัยชนะที่ชัดเจนของโดนัลด์ ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาผสมปนเปในรัฐสภายุโรป

'เซาธ์เกต' ส่อแววรอดพ้นคดีภาษี เตรียมรับพระราชทานยศ 'ท่านเซอร์'

แกเร็ธ เซาธ์เกต อดีตกุนซือทีมชาติอังกฤษ พ้นข้อกล่าวหาคดีเกี่ยวกับภาษีเรียบร้อยแล้ว มีสิทธิ์ได้รับพระราชทานอิสริยาภรณ์ชั้นอัศวินช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้

ไขข้อข้องใจ! ทำไมกินช็อกโกแลตแล้วสุขภาพดี

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กินช็อกโกแลตแล้วสุขภาพดี…… สนใจมั้ย?