สหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีครั้งใหม่ใส่กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน หลังจากกลุ่มติดอาวุธกร้าวตอบโต้ในทะเลแดงต่อไปอย่างไม่เกรงกลัว
เครื่องบินรบของกองทัพอากาศอังกฤษกำลังบินขึ้นจากฐานทัพอากาศอาโครติริในไซปรัส เพื่อเข้าร่วมปฎิบัติการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายทางทหารในเยเมน เมื่อวันที่ 12 มกราคม (Photo by Sgt Lee Goddard / MOD / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2567 กล่าวว่า หลังจากกองทัพสหรัฐฯได้ผนึกกำลังกับกองทัพอังกฤษทำการโจมตีทางอากาศใส่กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนเมื่อวันศุกร์ โดยมุ่งเป้าไปที่ฐานทัพอากาศ, สนามบิน และค่ายทหาร จนมีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ และทางกลุ่มฯให้คำมั่นจะตอบโต้เอาคืนอย่างสาสมจากการรุกรานอย่างโจ่งแจ้งนี้
ล่าสุด สหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีครั้งใหม่ใส่กลุ่มกบฏดังกล่าว หลังกลุ่มติดอาวุธเตรียมการโจมตีเรือในทะเลแดงเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มพันธมิตรของอิหร่านในเยเมน, เลบานอน, อิรัก และซีเรีย พุ่งสูงขึ้นนับตั้งแต่เกิดสงครามในฉนวนกาซาเมื่อต้นเดือนตุลาคมปีที่แล้ว
กลุ่มกบฏฮูตีซึ่งอ้างการแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับชาวปาเลสไตน์เพื่อตอบโต้การทิ้งระเบิดฉนวนกาซาของอิสราเอล ได้โจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ในเส้นทางการค้าระหว่างประเทศที่สำคัญในทะเลแดง โดยกำหนดเป้าหมายต่อเรือของอิสราเอลหรือผู้ที่มุ่งหน้าไปยังท่าเรือปาเลสไตน์เท่านั้น
ปกติแล้วประมาณ 12% ของการค้าโลกจะเดินทางผ่านช่องแคบบับอัล-มันดาบ ซึ่งเป็นทางเข้าทะเลแดงระหว่างประเทศเยเมนและจิบูตี แต่ตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน การโจมตีของฝ่ายกบฏได้ส่งผลกระทบต่อกระแสการค้า ทำให้เกิดความตึงเครียดด้านอุปทานและกดดันอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกให้สูงขึ้น
กองบัญชาการกลางสหรัฐฯ ระบุว่าการโจมตีเมื่อวันเสาร์เป็นการดำเนินการต่อเนื่องโดยมีเป้าหมายทางทหารที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการโจมตีเมื่อวันก่อนหน้า
ก่อนหน้านี้ สื่อของฮูตีรายงานว่าฐานทัพอากาศอัล-ไดลามี ในกรุงซานาซึ่งเป็นเมืองหลวงของเยเมนที่กลุ่มกบฏยึดครองอยู่ ถูกโจมตีด้วยระเบิดของสหรัฐฯ
แถลงการณ์ร่วมของสหรัฐฯ, อังกฤษ, ออสเตรเลีย, บาห์เรน, แคนาดา, เดนมาร์ก, เยอรมนี, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้ ระบุว่า การโจมตีกลุ่มกบฏฮูตีเป็นไปเพื่อลดความตึงเครียดและฟื้นฟูเสถียรภาพในทะเลแดง รวมทั้งปกป้องชีวิตและการไหลเวียนของการค้าอย่างเสรีในน่านน้ำที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก หลังเผชิญกับภัยคุกคามอย่างต่อเนื่อง แต่กลุ่มกบฏฮูตีก็ให้คำมั่นว่าการโจมตีเรือขนส่งสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอลจะดำเนินต่อไป
นักวิเคราะห์เชื่อว่า การโจมตีของชาติตะวันตกสามารถทำได้เพียงยับยั้ง แต่จะไม่สามารถหยุดยั้งกลุ่มกบฏได้
การโจมตีของชาติตะวันตกในตะวันออกกลางอาจเสี่ยงที่จะเปลี่ยนสถานการณ์ที่ตึงเครียดอยู่แล้วในภูมิภาคนี้ให้กลายเป็นการลุกลามในวงกว้าง ซึ่งอาจส่งผลให้เป็นความขัดแย้งของสหรัฐฯกับอิสราเอลที่ต้องต่อสู้กับอิหร่านและตัวแทนในภูมิภาค
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายไม่ให้ยกระดับความขัดแย้ง เพื่อผลประโยชน์ของสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจัดการประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าวเมื่อวันศุกร์ โดยก่อนหน้านี้ที่ประชุมเคยลงมติเรียกร้องให้กลุ่มฮูตีหยุดการโจมตีเรือทันที
เมื่อเดือนธันวาคม รัฐบาลวอชิงตันประกาศโครงการริเริ่มด้านความมั่นคงทางทะเลชุดใหม่ที่มีชื่อว่า "ปฏิบัติการพรอสเพอริตี้การ์เดียน" ภายใต้กลุ่มพันธมิตรกองกำลังผสมทางทะเลที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการโจมตีจากกลุ่มกบฏดังกล่าว แต่กลุ่มฮูตีก็ยังคงโจมตีต่อไปแม้จะมีคำเตือนหลายครั้งก็ตาม
รัฐบาลวอชิงตันใช้ความระมัดระวังอย่างเต็มที่แล้วในการตอบโต้ทางทหาร เนื่องจากพยายามรักษาสันติภาพที่เปราะบางในเยเมนที่ถูกสงครามกลางเมืองกัดกินมานานร่วมทศวรรษ จนนำไปสู่วิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งของโลก รวมทั้งไม่ต้องการให้มีความขัดแย้งโดยอ้อมกับอิหร่าน ซึ่งจะกลายเป็นการขยายความขัดแย้งจากฉนวนกาซาสู่ภูมิภาคตะวันออกกลาง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฝนและความหนาวเย็นทำให้สถานการณ์ของผู้พลัดถิ่นและตัวประกันในฉนวนกาซารุนแรงขึ้น
ชาวปาเลสไตน์ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ในฉนวนกาซาต้องพลัดถิ่นตั้งแต่เริ่มสงคราม ขณะนี้พวกเขากำลังเผชิญกับภาว