จีนกล่าวว่าได้เปิดเจรจาให้มีการหยุดยิงทันทีระหว่างกองทัพเมียนมาและพันธมิตรกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยทางชาติพันธุ์ หลังการสู้รบที่โหมกระหน่ำทั่วรัฐฉานทางตอนเหนือตั้งแต่เดือนตุลาคม
แฟ้มภาพ จุดตรวจชายแดนระหว่างเมียนมาและจีน ในมณฑลยูนนาน (Photo by Noel CELIS / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 12 มกราคม 2567 กล่าวว่า รัฐบาลปักกิ่งเป็นตัวกลางในการเจรจาให้มีการหยุดยิงทันทีระหว่างกองทัพเมียนมาและพันธมิตรของกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยทางชาติพันธุ์ หลังสองฝ่ายปะทะกันอย่างรุนแรงต่อเนื่องทั่วรัฐฉานทางตอนเหนือตั้งแต่เดือนตุลาคม
เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่า “คู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะหยุดยิงทันที รวมทั้งยกเลิกการใช้กำลังทางทหารและร่วมแก้ไขข้อพิพาทหรือข้อเรียกร้องใดๆที่เกี่ยวข้องผ่านการเจรจาอย่างสันติ” และเสริมว่า การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นพร้อมกับ “การไกล่เกลี่ยและการอำนวยความสะดวกของฝ่ายจีน” ในวันพุธและพฤหัสบดีที่เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ซึ่งมีพรมแดนติดกับเมียนมา
“ทั้งสองฝ่ายให้คำมั่นว่าจะคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยบริเวณชายแดนจีนและบุคลากรชาวจีนในเมียนมา นอกจากนี้ยังได้มีการหารือในประเด็นอื่นๆ เช่น การหยุดยิงและการเจรจาสันติภาพ เพื่อประโยชน์ของทุกฝ่ายในเมียนมาและเพื่อเสถียรภาพทางชายแดน” เหมา หนิง กล่าวทิ้งท้าย แต่ไม่มีการเปิดเผยว่าการหยุดยิงจะครอบคลุมพื้นที่ใดบ้าง
รัฐบาลเผด็จการทหารของเมียนมาซึ่งยึดอำนาจด้วยการทำการรัฐประหารในปี 2564 กำลังเผชิญกับภัยคุกคามครั้งใหญ่ที่สุด หลังจากแนวร่วมของกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์เปิดฉากโจมตีอย่างกว้างขวางทางตอนเหนือเมื่อปีที่แล้ว
กลุ่มที่เรียกว่า "พันธมิตรสามพี่น้อง (Three Brotherhood Alliance)" ซึ่งเป็นแนวร่วมกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ 3 กลุ่ม ได้ยึดศูนย์กลางการค้าและเมืองต่างๆ ที่มีความสำคัญต่อรัฐบาลทหารที่ขาดแคลนเงินสดเมื่อเดือนตุลาคม และสลับกันโจมตีรุนแรงต่อเนื่องมากขึ้นเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลปักกิ่งได้แสดงความไม่พอใจอย่างมากที่การสู้รบในเมียนมาส่งผลให้พลเมืองจีนได้รับบาดเจ็บ และกล่าวว่าจะใช้มาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อปกป้องพลเมืองของตน ภายหลังมีรายงานว่ากระสุนปืนใหญ่พุ่งข้ามชายแดนเข้ามา.
