ทูตพิเศษอาเซียนเดินทางเยือนเมียนมา เข้าพบกับผู้นำรัฐบาลทหาร หารือทางออกทางการทูตต่อความขัดแย้งภายในประเทศ
มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา (กลางขวา) และอลุนแก้ว กิตติคุณ (กลางซ้าย) ทูตพิเศษอาเซียนด้านกิจการเมียนมา ถ่ายภาพร่วมกับเจ้าหน้าที่ในกรุงเนปยีดอ เมื่อวันที่ 10 มกราคม (Photo by Handout / MYANMAR MILITARY INFORMATION TEAM / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 มกราคม 2567 กล่าวว่า อลุนแก้ว กิตติคุณ (Alounkeo Kittikhoun) ทูตพิเศษด้านกิจการเมียนมาของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เดินทางเยือนเมียนมา และได้เข้าพบกับมิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหาร ที่กรุงเนปยีดอ
หนังสือพิมพ์โกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมา รายงานว่า บุคลลทั้งสองหารือกันถึงความพยายามของรัฐบาลในการรับรองสันติภาพและเสถียรภาพของประเทศและประชาชน
การพบปะดังกล่าวมีขึ้นก่อนการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนในปลายเดือนที่ประเทศลาวซึ่งเป็นประธานสมาคมฯในปีนี้
อาเซียนยังคงไม่ประสบความสำเร็จในการแก้ไขความขัดแย้งยืดเยื้อในเมียนมาอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งฉันทามติ 5 ประการที่เคยตกลงร่วมกันไว้ ไม่เคยได้รับความร่วมมือในการปฎิบัติจริงจากรัฐบาลทหารเลย จนที่ประชุมทำการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากเมียนมาในทุกๆการประชุมระดับสูงของอาเซียน
ความขัดแย้งระหว่างชาติสมาชิกอาเซียนในประเด็นเมียนมารุนแรงขึ้นเมื่อปีที่แล้ว จากการตัดสินใจของรัฐบาลไทยในการเชิญรัฐมนตรีต่างประเทศของรัฐบาลเผด็จการทหารมาร่วมประชุมหารือนอกรอบ
อินโดนีเซียและมาเลเซียซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มสมาชิกที่ต่อต้าน ได้ปฏิเสธการประชุมใดๆกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากเมียนมามาโดยตลอด เช่นเดียวกับสิงคโปร์
ความแตกแยกดังกล่าวยิ่งส่งผลกระทบต่อความก้าวหน้าของอาเซียนในการคลี่คลายวิกฤต
นักวิเคราะห์ระบุว่า รัฐบาลเผด็จการทหารของเมียนมาซึ่งยึดอำนาจด้วยการทำการรัฐประหารในปี 2564 กำลังเผชิญกับภัยคุกคามครั้งใหญ่ที่สุด หลังจากแนวร่วมของกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์เปิดฉากโจมตีอย่างกว้างขวางทางตอนเหนือเมื่อปีที่แล้ว
กลุ่มที่เรียกว่า "พันธมิตรสามพี่น้อง (Three Brotherhood Alliance)" ซึ่งเป็นแนวร่วมกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ 3 กลุ่ม ได้ยึดศูนย์กลางการค้าและเมืองต่างๆ ที่มีความสำคัญต่อรัฐบาลทหารที่ขาดแคลนเงินสดเมื่อเดือนตุลาคม และสลับกันโจมตีรุนแรงต่อเนื่องมากขึ้นเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน.