นายกฯปาปัวนิวกีนีประกาศภาวะฉุกเฉินในเมืองหลวง

นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกีนีประกาศภาวะฉุกเฉิน 14 วันในกรุงพอร์ตมอร์สบีเมื่อวันพฤหัสบดี หลังมีผู้เสียชีวิต 15 รายจากเหตุจลาจล ในขณะที่ฝูงชนปล้นสะดมและเผาร้านค้า

ฝูงชนกำลังบุกเข้าปล้นสะดมร้านค้าในกรุงพอร์ตมอร์สบี เมืองหลวงของประเทศปาปัวนิวกีนี เมื่อวันที่ 10 มกราคม ท่ามกลางเหตุจลาจลที่มีผู้เสียชีวืต 15 ราย (Photo by AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 มกราคม 2567 กล่าวว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบในกรุงพอร์ตมอร์สบี เมืองหลวงของประเทศปาปัวนิวกีนี หลังจากกลุ่มทหาร, เจ้าหน้าที่ความมั่นคง, เจ้าหน้าที่เรือนจำ และประชาชนออกมาเดินประท้วงแสดงความโกรธเกรี้ยวต่อรัฐบาล จนบานปลายเป็นการจลาจลที่ฝูงชนได้จุดไฟเผารถตำรวจด้านนอกทำเนียบนายกรัฐมนตรี รวมถึงการปล้นสะดมร้านค้า

ล่าสุด นายกรัฐมนตรีเจมส์ มาราเป ของปาปัวนิวกีนี ประกาศภาวะฉุกเฉิน 14 วันในเขตเมืองหลวง และส่งกำลังทหารมากกว่า 1,000 นายกระจายตามพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมรับทุกสถานการณ์และใช้อำนาจพิเศษในการแทรกแซงตามความจำเป็น

ทั้งนี้ ข้อพิพาทรุนแรงเรื่องค่าจ้างที่เกี่ยวข้องกับกองกำลังความมั่นคงของปาปัวนิวกีนี เป็นต้นเหตุของความไม่สงบดังกล่าว

การประท้วงเริ่มต้นในกรุงพอร์ตมอร์สบี และกลายเป็นจลาจลย่อยๆ ก่อนขยายตัวจากเมืองลาเอซึ่งอยู่ทางเหนือห่างออกไปประมาณ 300 กิโลเมตร และลุกลามมาสมทบที่เมืองหลวงเป็นการซ้ำเติมความวุ่นวาย ทั้งการปะทะกับเจ้าหน้าที่, การปล้นสะดมร้านค้า และการจุดไฟเผารถและอาคาร จนมีผู้เสียชีวิต 15 รายจากสถานการณ์ที่บานปลายดังกล่าว

เมื่อช่วงเช้าวันพุธ เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับกองกำลังความมั่นคงได้รวมตัวประท้วงอย่างจริงจังด้วย หลังจากพบว่ารัฐบาลจ่ายค่าจ้างของพวกเขาลดลงจากปกติโดยไม่มีคำอธิบาย

แม้รัฐบาลจะออกมากล่าวว่า การจ่ายเงินค่าจ้างไม่ครบนั้นเป็นผลมาจากความผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจ และสัญญาว่าจะแก้ไขโดยทันที แต่สถานการณ์ได้บานปลายไปไกลเกินกว่าประเด็นค่าจ้างจนไม่สามารถหยุดยั้งหยุดพลเรือนที่ไม่พอใจไม่ให้เข้าร่วมการต่อสู้

นายกรัฐมนตรีฯกล่าวว่า หัวหน้าแผนกทั้ง 4 คนที่เกี่ยวข้องกับปัญหาบัญชีเงินเดือน ได้แก่ ผู้บัญชาการตำรวจ, หัวหน้าฝ่ายบุคคล, หัวหน้าฝ่ายการเงิน และหัวหน้าฝ่ายการคลัง ถูกลงโทษด้วยการพักงานเป็นเวลา 14 วัน.