ยอดผู้สูญหายจากแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นพุ่งทะลุ 300 คน

จำนวนผู้สูญหายโดยไม่ทราบสาเหตุหลังเกิดแผ่นดินไหววันปีใหม่ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็น 323 คน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 168 ราย ตามการระบุของหน่วยงานท้องถิ่น

รถยนต์คันหนึ่งได้รับความเสียหายอยู่ใต้อาคารที่พังถล่มในเมืองชิกะ จังหวัดอิชิกาวะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 8 มกราคม หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 7.5 แม็กนิจูดบนคาบสมุทรโนโตะช่วงวันปีใหม่ (Photo by Philip FONG / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2567 กล่าวว่า แม้แผ่นดินไหววันปีใหม่ในญี่ปุ่นจะผ่านมากว่า 1 สัปดาห์แล้ว แต่ยอดผู้สูญหายจากเหตุดังกล่าวยังคงพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับยอดผู้เสียชีวิต

หน่วยงานท้องถิ่นระบุล่าสุดว่า ตัวเลขผู้สูญหายทั้งหมดอยู่ที่ 323 คน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 168 ราย

ปัจจุบันหิมะกำลังตกหนักในพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งสร้างความลำบากในการค้นหาและกู้ภัย และเป็นการเร่งเร้าให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นได้อีก ขณะเดียวกันการบรรเทาทุกข์หลังแผ่นดินไหวก็ยังคงไม่เพียงพอ โดยที่ประชาชนในพื้นที่มากกว่า 2,000 คนยังคงถูกตัดขาดจากการเข้าถึง และอีกหลายครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้หรือจำเป็นต้องอยู่อย่างเบียดเสียดแออัดในสถานที่หลบภัยของทางการ

เมืองวาจิมะของจังหวัดอิชิกาวะในภาคกลางของญี่ปุ่นเป็นพื้นที่ที่มีผู้สูญหายมากที่สุดราว 281 คน โดยเมืองแห่งนี้ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากแผ่นดินไหว บ้านเรือนหลายสิบหลังพังพินาศ และเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ทำลายล้างพื้นที่

ทางการเตือนว่า ขณะนี้มีฝนตกและจะดำเนินต่อเนื่องไปหลายวัน ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มซ้ำเติมสถานการณ์ ส่วนหิมะในฤดูหนาวที่ตกหนักและมีความหนาเกินกว่า 10 เซนติเมตร อาจทำให้อาคารพังถล่มตามน้ำหนักของมัน

ราว 18,000 ครัวเรือนในภูมิภาคอิชิกาวะยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้เมื่อวันจันทร์ ขณะที่อีกกว่า 66,100 ครัวเรือนยังขาดแคลนน้ำประปา

สำหรับผู้ประสบเหตุ 28,800 คนที่พักพิงในสถานสงเคราะห์ของรัฐ หลายคนยังขาดแคลนน้ำใช้, ไฟฟ้า และเครื่องทำความร้อนที่เพียงพอ ตามรายงานของสื่อ

นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ป่นกล่าวย้ำเมื่อวันอาทิตย์ว่า "สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการช่วยเหลือผู้คนใต้ซากปรักหักพัง และการเข้าถึงชุมชนห่างไกลที่ถูกตัดขาด"

"รัฐบาลได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ตำรวจและหน่วยดับเพลิงหลายลำ รวมทั้งทหารกลุ่มเล็กๆ เดินเท้าเพื่อเข้าถึงชุมชนที่อยู่ห่างไกล" คิชิดะกล่าว.