บังกลาเทศเดินหน้าจัดการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ ซึ่งรับประกันว่านายกรัฐมนตรีชีค ฮาซีนา จะได้ดำรงตำแหน่งต่อไปเป็นสมัยที่ 5 อย่างไร้คู่แข่ง เพราะพรรคฝ่ายค้านคว่ำบาตรการเลือกตั้งครั้งนี้
นักศึกษามหาวิทยาลัยธากาเดินขบวนประท้วงริมถนนในเมืองหลวง เมื่อวันที่ 6 มกราคม เพื่อเรียกร้องให้ประชาชนคว่ำบาตรการเลือกตั้งทั่วไปของบังกลาเทศ (Photo by Munir UZ ZAMAN / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม 2567 กล่าวว่า บังกลาเทศเดินหน้าจัดการเลือกตั้งต่อไป แม้มีการคว่ำบาตรจากพรรคฝ่ายค้านเดิมที่ไม่ลงรับสมัครแข่งขันในครั้งนี้ ซึ่งเท่ากับว่านายกรัฐมนตรีชีค ฮาซีนา จะได้ดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 5 อย่างไร้คู่แข่ง
ฮาซีนามีบทบาทสำคัญในการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างโดดเด่นของบังกลาเทศที่เคยรุมเร้าด้วยความยากจน แต่รัฐบาลของเธอก็ถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวาง และมุ่งปราบปรามฝ่ายค้านอย่างเลือดเย็น
พรรคของฮาซีนาแทบไม่ต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่สูสีในการแย่งชิงที่นั่งในสภา แต่ก็ยังพยายามหลบเลี่ยงการถูกตราหน้าว่าเป็นรัฐบาลพรรคเดียวด้วยการโน้มน้าวพรรคเล็กๆให้ร่วมลงแข่งขัน
อย่างไรก็ตาม ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงบางคนกล่าวว่า พวกเขาถูกขู่ยึดบัตรสวัสดิการของรัฐบาลซึ่งจำเป็นสำหรับการเข้าถึงการจ่ายเงินสวัสดิการ หากพวกเขาปฏิเสธที่จะลงคะแนนเสียงให้กับพรรคสันนิบาตอวามีของรัฐบาลปัจจุบัน
ทั้งนี้ พรรคชาตินิยมบังกลาเทศ (BNP)และนักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านหลายพันคนถูกจับกุมเมื่อปลายปีที่แล้ว หลังจากการรณรงค์ประท้วงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีชีค ฮาซีนา ลาออกจากตำแหน่งก่อนการเลือกตั้งในเดือนมกราคม เพื่อความโปร่งใส, เสรี และเป็นธรรม.
แต่แกนนำฝ่ายค้านราว 25,000 คน รวมทั้งผู้นำท้องถิ่นทั้งหมดของพรรคชาตินิยมบังกลาเทศกลับถูกจับกุมในการปราบปรามของรัฐบาล
การชุมนุมประท้วงในหลายพื้นที่ทั่วประเทศยังคงดำเนินต่อไปในช่วงไม่กี่วันก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งรวมถึงผู้สนับสนุนฝ่ายค้านหลายร้อยคนที่เดินขบวนผ่านใจกลางกรุงธากาเมื่อวันศุกร์
การเมืองในประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 8 ของโลกถูกครอบงำมายาวนานด้วยการแข่งขันระหว่างฮาซีนา ลูกสาวของอดีตผู้นำผู้ก่อตั้งประเทศ กับคาเซดา เซีย อดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย
ฮาซีนาวัย 76 ปี เป็นผู้ชนะอย่างเด็ดขาดนับตั้งแต่ปี 2552 โดยมีการเลือกตั้ง 2 ครั้งตามมาหลังจากนั้น และเต็มไปด้วยความผิดปกติอย่างกว้างขวาง รวมทั้งข้อกล่าวหาเรื่องการโกงผลการเลือกตั้ง
เซียวัย 78 ปี ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานรับสินบนในปี 2561 และตอนนี้กำลังป่วยหนักที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงธากา โดยมีทาริก ราห์มาน ลูกชายของเธอซึ่งลี้ภัยอยู่ในลอนดอน ทำหน้าที่ดูแลพรรคชาตินิยมบังกลาเทศแทนเธอ
ฮาซีนากล่าวหาพรรคชาตินิยมบังกลาเทศว่า ทำการวางเพลิงและก่อวินาศกรรมระหว่างการรณรงค์ประท้วงเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปอย่างสันติแต่กลับพบว่ามีผู้เสียชีวิตหลายรายในการเผชิญหน้ากับตำรวจ
กองกำลังความมั่นคงของรัฐบาลถูกต่อต้านมานานแล้วจากข้อกล่าวหาว่าถูกใช้เป็นเครื่องมือของฮาซีนาในการควบคุมฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่รัฐบาลปฏิเสธ
สหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดสำหรับบังกลาเทศที่มีประชากร 170 ล้านคน ได้คว่ำบาตรหน่วยงานตำรวจและผู้บัญชาการระดับสูงที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำการวิสามัญฆาตกรรมและบังคับบุคคลให้สูญหาย.
