เหตุระเบิด 2 ครั้งสังหารผู้คนอย่างน้อย 84 รายในอิหร่านเมื่อวันพุธ สร้างความโกลาหลแก่ฝูงชนที่มาร่วมรำลึกถึงนายพลคาเซม โซไลมานี แห่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติ ที่เสียชีวิตจากการโจมตีของสหรัฐฯ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว
ผู้คนและเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินของอิหร่านยืนอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุซึ่งมีการระเบิด 2 ครั้งติดต่อกันใกล้มัสยิดซาเฮบ อัล-ซามาน ในเมืองเคอร์มาน ทางตอนใต้ของอิหร่าน เมื่อวันที่ 3 มกราคม มีผู้เสียชีวิต 84 ราย และบาดเจ็บอีก 211 คน (Photo by Sare Tajalli / ISNA / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 มกราคม 2567 กล่าวว่า เกิดเหตุระเบิด 2 ครั้งในระยะเวลาห่างกันประมาณ 15 นาที ใกล้สุสานผู้พลีชีพที่มัสยิดซาเฮบ อัล-ซามาน ในเมืองเคอร์มาน บ้านเกิดทางตอนใต้ของนายพลคาเซม โซไลมานี ซึ่งเป็นผู้นำกองกำลังคุดส์ที่ถูกสังหารในกรุงแบกแดดโดยโดรนของสหรัฐเมื่อเกือบ 4 ปีที่แล้ว
แรงระเบิดทำให้ผู้สนับสนุนที่มารวมตัวกันในวันครบรอบมรณกรรมของเขา เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
สำนักข่าว IRNA ของอิหร่านระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 84 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีก 211 คน ทั้งที่อาการเบาและสาหัส
IRNA รายงานว่า การระเบิดครั้งแรกเกิดขึ้นห่างจากหลุมศพของโซไลมานีประมาณ 700 เมตร ขณะที่อีกลูกหนึ่งระเบิดห่างจากหลุมศพของโซไลมานีประมาณ 1 กิโลเมตร และดูเหมือนเป็นการจงใจวางระเบิดที่จุดชนวนด้วยรีโมทคอนโทรล
ทันทีที่เกิดระเบิด ฝูงชนต่างแตกตื่นและพากันหลบหนี ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยปิดล้อมพื้นที่ รวมทั้งรถพยาบาลและเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บที่นอนจมกองเลือดตามพื้น
อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านกล่าวโทษเหตุครั้งนี้ว่าเป็นฝีมือของศัตรูที่ชั่วร้ายและเป็นอาชญากร พร้อมให้คำมั่นว่าจะตอบโต้คืนด้วยความรุนแรง
ประธานาธิบดีเอบราฮิม ไรซี ของอิหร่านซึ่งยกเลิกกำหนดการเยือนตุรเคียเมื่อวันพฤหัสบดี ประณามเหตุอาชญากรรมที่เลวร้ายครั้งนี้ และประกาศให้วันพฤหัสบดีเป็นวันไว้ทุกข์แห่งชาติ
เหตุระเบิด 2 ครั้งซึ่งสื่อของรัฐและหน่วยงานระดับภูมิภาคระบุว่าเป็น "การโจมตีของผู้ก่อการร้าย" เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดสูงในตะวันออกกลางจากสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา และการสังหารผู้นำอาวุโสของกลุ่มฮามาสในเลบานอนเมื่อวันอังคาร
การโจมตีที่ยังไม่มีฝ่ายใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ อาจกลายเป็นความขัดแย้งที่ลุกลามในภูมิภาคนี้ อีกทั้งยังสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดโลกจนราคาน้ำมันพุ่งขึ้นมากกว่า 3% และจุดชนวนให้เกิดการประณามทั่วโลก
ทั้งนี้ นายพลคาเซม โซไลมานี เป็นหัวหน้ากองกำลังคุดส์ ซึ่งเป็นหน่วยงานปฏิบัติการต่างประเทศของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามและมีหน้าที่ดูแลปฏิบัติการทางทหารทั่วตะวันออกกลาง
ในสายตาของชาวอิหร่านจำนวนมาก ความกล้าหาญทางทหารและยุทธศาสตร์ของเขาเป็นเครื่องมือในการป้องกันการล่มสลายของหลายชาติพันธุ์ในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อัฟกานิสถาน, ซีเรีย และอิรัก
โซไลมานีถูกมองว่าเป็นศัตรูตัวร้ายของสหรัฐฯ และพันธมิตรมายาวนาน เขาเป็นหนึ่งในกลุ่มบุคคลที่มีอำนาจทั่วภูมิภาค และสามารถกำหนดวาระทางการเมืองและการทหารของอิหร่านในซีเรีย, อิรัก และเยเมน
สหประชาชาติ, สหภาพยุโรป และหลายประเทศ รวมถึงซาอุดีอาระเบีย, จอร์แดน, เยอรมนี และอิรัก ต่างประณามเหตุระเบิดดังกล่าว เช่นเดียวกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียที่ส่งข้อความแสดงความเสียใจโดยตรงถึงผู้นำสูงสุดและประธานาธิบดีอิหร่าน
สหรัฐฯ ปฏิเสธความเกี่ยวข้องใดๆกับอิสราเอลจากเหตุครั้งนี้ ขณะที่อิสราเอลปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น
"สหรัฐฯ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เราไม่มีเหตุผลที่จะเชื่อว่าอิสราเอลมีส่วนเกี่ยวข้องกับการระเบิดครั้งนี้" แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับเหตุระเบิดดังกล่าว ดาเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอลกล่าวเพียงว่า "เรามุ่งเน้นไปที่การต่อสู้กับกลุ่มฮามาส"
เหตุระเบิดในอิหร่านเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากซาเลห์ อัล-อารูรีซึ่งเป็นรองผู้นำกลุ่มฮามาส ถูกสังหารจากการโจมตีโดยอิสราเอล ในย่านชานเมืองทางตอนใต้ของกรุงเบรุตซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธฮิซบุลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดร.ปณิธาน วิเคราะห์สถานการณ์ตะวันออกกลาง หลังอิสราเอลตอบโต้กลับอิหร่าน
รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง และการต่างประเทศ โพสต์คลิปสัมภาษณ์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมข้อความว่า อิสราเอลแถลงว่าการโจมตีอิหร่านสิ้นสุดลงแล้ว (พรุ่งนี้ต้องจับตาดูการเจรจาหยุดยิงและแลกเปลี่ยนตัวประกันรอบใหม่ระหว่างฮามาสและอิสราเอลที่ Doha)