อิสราเอลเปิดแนวรบ พร้อมรับทุกสถานการณ์ หลังโจมตีกรุงเบรุตของเลบานอนและสังหารรองผู้นำกลุ่มฮามาส ท่ามกลางความกังวลของหลายฝ่ายที่ไม่อยากเห็นสงครามลุกลามขยายวง
ภาพป้ายโฆษณาที่แสดงภาพของซาเลห์ อัล-อารูรี ผู้นำอาวุโสของกลุ่มฮามาสปาเลสไตน์ (Photo by MOHAMMED ABED / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 3 มกราคม 2567 กล่าวว่า กองทัพอิสราเอลประกาศกร้าวเตรียมพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ ภายหลังโจมตีในกรุงเบรุตของเลบานอนและคร่าชีวิตรองผู้นำกลุ่มฮามาส ท่ามกลางความกลัวว่าสงครามในฉนวนกาซาอาจลุกลามไปสู่ความขัดแย้งในระดับภูมิภาค
เจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูงในเลบานอนบอกกับเอเอฟพีว่า ซาเลห์ อัล-อารูรีถูกสังหารพร้อมกับบอดี้การ์ดของเขาจากการโจมตีโดยอิสราเอลซึ่งให้คำมั่นว่าจะทำลายกลุ่มฮามาสให้สิ้นซาก ทั้งนี้ข้อมูลการเสียชีวิตดังกล่าวได้รับการยืนยันจากสถานีโทรทัศน์ของกลุ่มฮามาสด้วยเช่นกัน
ดาเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอลไม่ได้แสดงความเห็นโดยตรงเกี่ยวกับการสังหารครั้งนี้ แต่กล่าวหลังจากนั้นว่ากองทัพอยู่ในสถานะเตรียมพร้อมสูงมากในทุกด้าน ทั้งในด้านการป้องกันและการโจมตี เพื่อรับมือทุกสถานการณ์
ก่อนหน้านี้ในช่วงการรบ อิสราเอลได้ประกาศการเสียชีวิตของผู้บัญชาการและเจ้าหน้าที่ของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา แต่อัล-อารูรีถือเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดที่ถูกสังหาร และการตายของเขาเกิดขึ้นในการโจมตีกรุงเบรุตเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้น
การโจมตีเมืองหลวงของเลบานอนทำให้เกิดความหวาดกลัวอย่างกว้างขวางว่าสงครามอิสราเอล-ฮามาสที่กินเวลาเกือบ 3 เดือนอาจกลายเป็นเหตุลุกลามวงกว้างในภูมิภาค
ขณะที่กลุ่มฮามาสกล่าวว่า การตายของอัล-อารูรีจะไม่นำไปสู่ความพ่ายแพ้ เช่นเดียวกับกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ซึ่งเป็นพันธมิตรที่มีฐานอยู่ในเลบานอนสาบานว่าจะตอบโต้
นายกรัฐมนตรีนาจิบ มิคาติ ของเลบานอนประณามการสังหารครั้งนี้ และกล่าวว่านี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่จะดึงเลบานอนเข้าสู่สงครามต่อไป
ทั้งนี้ ซาเลห์ อัล-อารูรีซึ่งลี้ภัยอยู่ในเลบานอน ถูกอิสราเอลกล่าวหาว่าเป็นผู้บงการการโจมตีหลายครั้ง
หลังการเสียชีวิตของรองผู้นำ อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำกลุ่มฮามาส กล่าวว่า "ผู้นำอาจล้มลงในฐานะผู้พลีชีพเพื่อศักดิ์ศรีของประชาชน แต่ประเทศชาติของเราจะไม่มีวันพ่ายแพ้"
สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2566 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,140 รายในดินแดนอิสราเอล และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 22,185 รายในฉนวนกาซาพร้อมตัวประกันที่ยังถูกจับกุมอีก 129 คน
ล่าสุด กองทัพอิสราเอลระบุว่า ทหารในฉนวนกาซาได้สังหารผู้ก่อการร้ายหลายสิบคนในการสู้รบเมื่อวันอังคาร และยังได้บุกตรวจค้นคลังอาวุธในเมืองข่าน ยูนิส ทางตอนใต้ด้วย
ขณะที่สภาเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์ในข่าน ยูนิสระบุว่า อิสราเอลโจมตีสำนักงานใหญ่ของพวกตนถึง 2 ครั้ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 รายและบาดเจ็บ 3 คนในหมู่ผู้พลัดถิ่นที่ขอลี้ภัยและที่โรงพยาบาลใกล้เคียง
การโจมตีในเมืองข่าน ยูนิสทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ยังคงดำเนินต่อไปตลอดทั้งคืนจนถึงเช้าวันพุธ โดยกระทรวงสาธารณสุขของกลุ่มฮามาสรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
หน่วยงานของสหประชาชาติแสดงความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่ทวีความรุนแรงขึ้นในฉนวนกาซา ซึ่งทำให้ผู้คน 2.4 ล้านคนถูกปิดล้อม โดยส่วนใหญ่ต้องพลัดถิ่นและแออัดยัดเยียดอยู่ในศูนย์พักพิงและเต็นท์ในช่วงฝนตกฤดูหนาว รวมทั้งความเสี่ยงต่อความอดอยากและโรคภัยไข้เจ็บ ท่ามกลางความช่วยเหลือแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เมื่อวันอังคาร เรือของอังกฤษลำหนึ่งได้ส่งมอบความช่วยเหลือจำนวน 87 ตันไปยังฉนวนกาซา ผ่านทางไซปรัสต่อไปยังอียิปต์ ซึ่งถือเป็นการขนส่งครั้งแรกผ่านทางเดินทะเลจากแถบเมดิเตอร์เรเนียน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มฮามาสกล่าวหาอิสราเอลโจมตีโรงพยาบาลทางตอนเหนือของฉนวนกาซา
กลุ่มฮามาสกล่าวหาอิสราเอลว่าโจมตีทางอากาศที่โรงพยาบาลแห่งสุดท้ายในฉนวนกาซา กองทัพอิสราเอลยังคง “ใช้ระเบิ
ดร.ปณิธาน วิเคราะห์สถานการณ์ตะวันออกกลาง หลังอิสราเอลตอบโต้กลับอิหร่าน
รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง และการต่างประเทศ โพสต์คลิปสัมภาษณ์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมข้อความว่า อิสราเอลแถลงว่าการโจมตีอิหร่านสิ้นสุดลงแล้ว (พรุ่งนี้ต้องจับตาดูการเจรจาหยุดยิงและแลกเปลี่ยนตัวประกันรอบใหม่ระหว่างฮามาสและอิสราเอลที่ Doha)