อี แจ-มย็อง ผู้นำฝ่ายค้านของเกาหลีใต้รอดพ้นความตายได้อย่างหวุดหวิดหลังได้รับการผ่าตัดจนอาการปลอดภัยจากเหตุถูกแทงที่คอ ขณะที่ตำรวจเร่งสอบสวนแรงจูงใจในการก่อเหตุของคนร้าย
อี แจ-มย็อง ผู้นำฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ (กลาง) พูดคุยกับผู้สื่อข่าวขณะเยี่ยมชมสนามบินแห่งใหม่ในเมืองปูซาน เมื่อวันที่ 2 มกราคม ก่อนเกิดเหตุคนร้ายบุกใช้มีดแทงคอ (Photo by YONHAP / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 3 มกราคม 2567 กล่าวว่า สืบเนื่องจากเหตุอุกอาจที่ อี แจ-มย็อง ผู้นำฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ลงพื้นที่ปฏิบัติงานในเมืองปูซานและถูกทำร้ายด้วยการแทงที่คอ ล่าสุดหลังเข้ารับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน เขาอยู่ในอาการปลอดภัยแล้ว
ช่วงเกิดเหตุเมื่อวันอังคาร อี แจ-มย็อง กำลังให้สัมภาษณ์นักข่าวและได้รับการรายล้อมโดยกลุ่มผู้สนับสนุนในสถานที่ก่อสร้างแห่งหนึ่งเมืองปูซาน อยู่ๆชายคนหนึ่งก็พุ่งเข้าใส่ตัวเขา พร้อมเอาอาวุธมีดแทงไปที่คอด้านซ้ายของเขาจนเลือดออก ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยในท้องถิ่นอย่างเร่งด่วน และต่อมาถูกส่งตัวไปยังกรุงโซลเพื่อรับการผ่าตัดซึ่งกินเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง ท้ายที่สุดเขาก็ปลอดภัยและกำลังพักฟื้นอยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก
"เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของปูซานระบุว่า หากมีดของคนร้ายแทงไปโดนหลอดเลือดแดงที่คอของเขา เขาอาจถูกสังหารทันทีในที่เกิดเหตุ" จ็อง ชุง-แร ส.ส. จากพรรคประชาธิปไตยแห่งเกาหลีของอี แจ-มย็อง กล่าวถึงอาการของหัวหน้าพรรค และเสริมว่า ขณะนี้ผู้นำฝ่ายค้านกำลังพักฟื้นอยู่ในห้องไอซียู และคณะแพทย์ยังไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยม
ตามรายงานของสำนักข่าวยอนฮัป ตำรวจระบุเมื่อวันพุธว่า กำลังขอหมายจับผู้ต้องสงสัยวัย 66 ปี ซึ่งถูกจับไว้ได้ทันทีในที่เกิดเหตุและระบุได้เพียงสกุลของเขาที่ชื่อว่า "คิม"
ขณะที่ศาลแขวงได้อนุมัติหมายค้นบ้านและสำนักงานของผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวน โดยตำรวจจะมุ่งเน้นไปที่การค้นหาแรงจูงใจที่แท้จริงเบื้องหลังการโจมตี
ทางการเกาหลีใต้เตรียมดำเนินคดีผู้ต้องสงสัยในข้อหาพยายามฆ่า ตามคำให้การของผู้ต้องสงสัยเองที่บอกว่า "มาเพื่อฆ่า" ซึ่งเป็นการกระทำที่อุกอาจและมีโทษสูง
สำนักข่าวยอนฮัปรายงานเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยว่า นายคิมทำงานเป็นตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดชุงชองใต้ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโซลประมาณ 115 กิโลเมตร มีข้อมูลที่ได้จากเอกสารทางไปรษณีย์ลงทะเบียนจากธนาคารที่สำนักงานของเขา รวมถึงเอกสารอื่นๆ บ่งชี้ว่าคิมกำลังประสบปัญหาทางการเงินและค้างค่าเช่าสำนักงานเป็นเวลา 7 เดือนแล้ว
ทั้งนี้ เกาหลีใต้กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งสำคัญในวันที่ 10 เมษายน ซึ่งพรรครัฐบาลอนุรักษนิยมของประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล ตั้งเป้าที่จะได้เสียงข้างมากในรัฐสภากลับคืนมาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2559
สำหรับพรรคประชาธิปไตยแห่งเกาหลีซึ่งเป็นฝ่ายค้าน ก็คาดหวังว่าจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อปูทางสู่การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อไปในปี 2570.