สถานทูตจีนในเมียนมาประกาศให้พลเมืองย้ายออกจากพื้นที่ทางตอนเหนือตามแนวชายแดนร่วมของประเทศ โดยอ้างถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นจากการปะทะระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์กับรัฐบาลทหาร
แฟ้มภาพ กองกำลังของกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) ประจำการที่ฐานทหารแห่งหนึ่ง หลังจากยึดฐานดังกล่าวได้ระหว่างการปะทะกับกองทัพใกล้เมืองเล่าก์ก่าย ในรัฐฉานทางตอนเหนือของเมียนมา เมื่อเดือนตุลาคม (Photo by Handout / Kokang Information Network / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 ธันวาคม 2566 กล่าวว่า การปะทะระหว่างกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์และกองทัพของรัฐบาลเผด็จการสร้างความเสียหายในพื้นที่ทางตอนเหนือตามแนวชายแดนของเมียนมาที่ติดกับจีน รวมทั้งนำมาซึ่งปัญหาด้านความปลอดภัยของผู้คนในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียง
ล่าสุด สถานทูตจีนในเมียนมาประกาศเตือนให้พลเมืองของตนเร่งย้ายออกจากพื้นที่สุ่มเสี่ยงดังกล่าวทันทีเพื่อความปลอดภัย หลังจากการปะทะมีแนวโน้มรุนแรงและขยายตัว
สถานทูตจีนฯระบุในประกาศว่า "ความขัดแย้งในเขตเล่าก์ก่ายทางตอนเหนือของเมียนมายังคงดำเนินต่อไป และความเสี่ยงด้านความปลอดภัยได้เพิ่มสูงขึ้นสำหรับผู้ที่ยังคงอาศัยอยู่ที่นั่น สถานเอกอัครราชทูตจีนในเมียนมาขอเตือนพลเมืองจีนในเล่าก์ก่ายอีกครั้งให้อพยพโดยเร็วที่สุด"
การปะทะเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคมทั่วรัฐฉานทางตอนเหนือของเมียนมา หลังจากที่กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA), กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (TNLA) และกองทัพอาระกัน (AA) เปิดฉากโจมตีกองทัพจนสามารถยึดเมืองและศูนย์กลางชายแดนหลายแห่งซึ่งมีความสำคัญต่อการค้ากับจีน ในสิ่งที่นักวิเคราะห์กล่าวว่าเป็นความท้าทายทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดต่อรัฐบาลเผด็จการทหารนับตั้งแต่ยึดอำนาจในปี 2564
กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมาให้คำมั่นที่จะยึดคืนเมืองเล่าก์ก่าย เมืองเอกของเขตปกครองพิเศษโกก้าง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตติดชายแดนจีนและอยู่ภายใต้การดูแลของกองกำลังทหารติดอาวุธ โดยพื้นที่ดังกล่าวมีชื่อเสียงในด้านการพนัน, การค้าประเวณี และการหลอกลวงทางออนไลน์
สื่อของกองกำลังชาติพันธุ์กล่าวในสัปดาห์นี้ว่า รัฐบาลเผด็จการทหารได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในเขตปกครองพิเศษโกก้างและโจมตีบางส่วนของเมืองเล่าก์ก่าย
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลปักกิ่งกล่าวว่าได้เป็นคนกลางเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ 3 กลุ่ม และบรรลุข้อตกลงสำหรับ "การหยุดยิงชั่วคราว"
แต่การปะทะยังคงดำเนินต่อไปในบางส่วนของรัฐฉาน โดยกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอางอ้างว่าสามารถยึดเมืองได้อีก 2 เมืองในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์กล่าวว่า รัฐบาลปักกิ่งรักษาความสัมพันธ์กับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ทางตอนเหนือของเมียนมา ซึ่งบางส่วนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดทางชาติพันธุ์และวัฒนธรรมกับจีน รวมทั้งใช้สกุลเงินและเครือข่ายโทรศัพท์ของจีนในดินแดนที่พวกเขาควบคุม
แม้รัฐบาลปักกิ่งเป็นผู้จัดหาอาวุธรายใหญ่และเป็นพันธมิตรของรัฐบาลเผด็จการทหาร แต่ความสัมพันธ์กลับตึงเครียดมากขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ จากความล้มเหลวของรัฐบาลเมียนมาในการปราบปรามกลุ่มหลอกลวงทางออนไลน์ในประเทศที่รัฐบาลปักกิ่งระบุว่ามุ่งเป้าไปที่ชาวจีน
เมื่อเดือนที่แล้ว มีเหตุการณ์ชาวเมียนมารวมตัวประท้วงที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักในกรุงย่างกุ้ง เพื่อกล่าวหาว่าจีนให้การสนับสนุนชนกลุ่มน้อยทางชาติพันธุ์ ในสิ่งที่นักวิเคราะห์กล่าวว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลเผด็จการทหาร.
