มีผู้เสียชีวิตแล้ว 9 ราย หลังจากพายุคริสต์มาสพัดถล่มชายฝั่งทะเลตะวันออกของออสเตรเลีย ทำให้เกิดกระแสน้ำท่วมฉับพลัน
เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินกำลังช่วยเหลือผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นจากน้ำ หลังฝนตกหนักที่บริเวณตั้งแคมป์ในเมืองบูชานทางตะวันออกของเมลเบิร์น ในรัฐวิกตอเรียของออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม (Photo by Handout / VICTORIA POLICE / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 27 ธันวาคม 2566 กล่าวว่า ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมแรงพัดกระหน่ำรัฐวิกตอเรียและควีนส์แลนด์ของออสเตรเลีย ส่งผลให้เรือล่ม, ทำให้น้ำท่วมฉับพลัน และเสาไฟฟ้าพังเสียหายจำนวนมาก
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนว่า พื้นที่ชายฝั่งทะเลในรัฐควีนส์แลนด์ยังคงมีความเสี่ยงต่อพายุรุนแรง, น้ำท่วมที่อันตรายถึงชีวิต, ลูกเห็บขนาดมหึมา และกระแสลมที่สร้างความเสียหายได้
มีรายงานผู้ประสบภัยถูกกระแสน้ำพัดพาไปขณะหญิงสาว 3 คนกำลังสำรวจท่อระบายน้ำฝนขนาดใหญ่ในเมืองจิมพาย ซึ่งเป็นเมืองชนบทของควีนส์แลนด์ และต่อมาตำรวจสามารถงมศพผู้หญิง 2 รายขึ้นมาได้ ส่วนรายที่ 3 รอดชีวิต เพราะถูกน้ำซัดไปติดอยู่ริมฝั่งแม่น้ำใกล้เคียง
ความรุนแรงของพายุทำให้เรือยอชท์ขนาด 39 ฟุตประสบเหตุล่มกลางทะเลระหว่างดำเนินกิจกรรมตกปลาประจำปีใกล้เมืองบริสเบน และผู้โดยสาร 11 คนบนเรือลำดังกล่าวต้องลอยคอกลางทะเล ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถช่วยชีวิตได้ 8 คน แต่สูญเสียไป 3 รายจากการจมน้ำตาย
นอกจากนี้ ยังมีรายงานการพบศพเด็กหญิงวัย 9 ขวบรายหนึ่งหลังจากสูญหายไปในกระแสน้ำท่วมบริเวณชานเมืองบริสเบน และการเสียชีวิตของหญิงวัย 59 ปีรายหนึ่งที่ถูกต้นไม้ล้มทับในเมืองโกลด์โคสต์ของรัฐควีนส์แลนด์
บริษัทสาธารณูปโภค 'Energex' ออกแถลงการณ์ว่า หน่วยงานกำลังเร่งดำเนินการเพื่อฟื้นฟูไฟฟ้าให้กับบ้านเรือนที่ประสบภัยมากกว่า 80,000 หลังในรัฐควีนส์แลนด์ หลังจากกระแสน้ำทำให้เสาไฟฟ้าคอนกรีตหักโค่นจำนวนมาก
ขณะเดียวกันในรัฐวิกตอเรีย มีรายงานพบศพผู้หญิงรายหนึ่งในช่วงค่ำของวันอังคาร หลังเกิดน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ตั้งแคมป์ในเมืองบูชาน ซึ่งอยู่ห่างจากเมลเบิร์น 350 กิโลเมตร รวมทั้งการเสียชีวิตของชายอีกรายหนึ่ง หลังจากถูกกิ่งไม้ล้มทับในเมืองคาริงกัลทางตะวันออกของเมืองหลวงแห่งรัฐ.