ผู้คนเฉลิมฉลองคริสต์มาสตามชายหาด, ลานสกี และถนนทั่วโลก ในขณะที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเรียกร้องให้ยุติสงครามในฉนวนกาซาและยูเครน
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงอุ้มหุ่นจำลองพระกุมารเยซูในช่วงพิธีมิสซาคริสต์มาสอีฟ ที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในนครวาติกัน เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม (Photo by Tiziana FABI / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 25 ธันวาคม 2566 กล่าวว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงประกอบพิธีมิสซาประจำปี "Urbi and Orbi" ในวันคริสต์มาส ที่นครวาติกัน พร้อมเรียกร้องให้ยุติการทำสงครามทุกรูปแบบ รวมทั้งกรอบความคิดของสงครามที่นำมาซึ่งการเดินทางที่ไร้จุดหมาย, ความพ่ายแพ้ที่ไร้ชัยชนะ และความโง่เขลาที่ไม่อาจให้อภัย
พระองค์ทรงตรัสว่า "ขอสันติภาพจงบังเกิดแก่อิสราเอลและปาเลสไตน์ ที่ซึ่งสงครามกำลังทำลายล้างชีวิตของผู้คนเหล่านั้น"
"ข้าพเจ้าขอย้ำอย่างเร่งด่วนให้ปลดปล่อยผู้ที่ยังคงถูกจับเป็นตัวประกัน ข้าพเจ้าร้องขอให้ยุติปฏิบัติการทางทหารที่ทำลายล้างจิตวิญญาณของพลเรือนผู้บริสุทธิ์ และขอเรียกร้องให้มีแนวทางแก้ไขสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่สิ้นหวังด้วยการดำเนินการตามบทบัญญัติของความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม"
"ข้าพเจ้าขอให้สันติภาพจงบังเกิดแก่ยูเครน ให้เราได้รื้อฟื้นความใกล้ชิดทางจิตวิญญาณกับคนทุกผู้ที่ต้องสู้รบในสงคราม" สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงตรัส พร้อมเรียกร้องให้มีการแก้ไขข้อขัดแย้งที่คุกรุ่นอยู่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง, แอฟริกา และคอเคซัส
สงครามฉนวนกาซาทำให้เกิดคริสต์มาสอันน่าเศร้าในเบธเลเฮม เมืองตามพระคัมภีร์ในเขตเวสต์แบงก์ที่ชาวคริสต์เชื่อว่าพระเยซูคริสต์ถูกวางในรางหญ้าหลังจากประสูติเมื่อ 2,000 กว่าปีก่อน
ในปีนี้ ไม่มีทั้งต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่, วงดนตรีบรรเลง และฉากจำลองการประสูติอันวิจิตรตระการตา ซึ่งโดยปกติจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกให้มารวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลอง โดยใจกลางเมือง มีเพียงการกางธงปาเลสไตน์ขนาดใหญ่พร้อมป้ายประกาศว่า "ระฆังแห่งเบธเลเฮมดังขึ้นเพื่อการหยุดยิงในฉนวนกาซา"
สงครามในฉนวนกาซาเริ่มต้นขึ้นหลังจากการโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,140 รายในอิสราเอล และการตอบโต้เอาคืนของอิสราเอลในฉนวนกาซาทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 20,400 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน, ผู้หญิง และเด็ก.
