ผู้คนในเช็กร่วมไว้อาลัยเหยื่อกราดยิงมหาวิทยาลัยปราก

รัฐบาลเช็กประกาศให้วันที่ 23 ธันวาคม เป็นวันไว้ทุกข์แห่งชาติ โดยมีการลดธงครึ่งเสาตามอาคารราชการและอาคารสาธารณะ หลังเหตุกราดยิงที่มหาวิทยาลัยชาร์ลส์ในกรุงปราก

ผู้คนร่วมวางดอกไม้และจุดเทียนไว้อาลัยที่อนุสรณ์สถานชั่วคราวสำหรับเหยื่อกราดยิง บริเวณนอกพื้นที่มหาวิทยาลัยชาร์ลส์ ใจกลางกรุงปราก ประเทศสาธารณรัฐเช็ก เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม (Photo by Radek Mica / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 23 ธันวาคม 2566 กล่าวว่า เหตุกราดยิงที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์สาธารณรัฐเช็ก นำมาซึ่งความเศร้าสลดใจทั่วประเทศ และรัฐบาลประกาศให้วันเสาร์เป็นวันไว้ทุกข์แห่งชาติ เพื่อระลึกถึงผู้เสียชีวิต 13 รายจากโศกนาฏกรรมเมื่อ 2 วันก่อน

นักศึกษาชายวัย 24 ปี รายหนึ่งก่อเหตุกราดยิงแบบสุ่มที่คณะอักษรศาสตร์ของมหาวิทยาลัยชาร์ลส์ ใจกลางกรุงปรากเมื่อวันพฤหัสบดี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 14 ราย รวมทั้งตัวมือปืนที่ฆ่าตัวตายหนีการจับกุม

รัฐบาลขอให้ชาวเช็กยืนสงบนิ่งในช่วงเที่ยงวันของวันเสาร์ และมีการตีระฆังดังตามโบสถ์ต่างๆ ทั่วสหภาพยุโรปและประเทศสมาชิกนาโต

นายกรัฐมนตรีปีเตอร์ ฟิอาลา ของเช็ก กล่าวว่า "เป็นเรื่องยากที่จะหาคำกล่าวประณามในทางหนึ่ง ขณะที่อีกด้านหนึ่งคือความเจ็บปวดและความโศกเศร้าที่ทั้งสังคมของเรารู้สึกในช่วงก่อนวันคริสต์มาส"

บรรดานักศึกษาต่างหลั่งน้ำตาขณะจุดเทียนหลายพันเล่มที่อนุสรณ์สถานชั่วคราวที่คณะอักษรศาสตร์และสำนักงานใหญ่ของมหาวิทยาลัย และเริ่มมีการเปิดเผยรายชื่อของเหยื่อผู้เสียชีวิตที่มีทั้งอาจารย์และนักศึกษา

การกราดยิงครั้งนี้ยังทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 25 คน รวมถึงเหยื่อ 3 คนที่ถูกยิงบนถนนนอกเขตมหาวิทยาลัย ข้อมูลทางการระบุด้วยว่ามีชาวต่างชาติอยู่ในจำนวนผู้บาดเจ็บ ได้แก่ พลเมืองดัตช์ 1 คน และพลเมืองสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 คน

วิท ราคูสัน รัฐมนตรีมหาดไทยเช็ก กล่าวว่า เหตุครั้งนี้ไม่มีความเชื่อมโยงกับการก่อการร้ายระหว่างประเทศ เป็นเพียงแค่การกระทำผิดด้วยเหตุผลส่วนตัว โดยข้อมูลเบื้องต้นชี้ว่ามือปืนอาจได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุกราดยิงที่คล้ายกันในรัสเซีย ตามเนื้อหาที่ปรากฏในบัญชีโซเชียลมีเดียของผู้ก่อเหตุ

หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะประจำการในสถานที่บางแห่ง รวมถึงโรงเรียน จนถึงวันที่ 1 มกราคม เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ด้านความปลอดภัยในช่วงเทศกาล

เหตุกราดยิงล่าสุดในศูนย์กลางประวัติศาสตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดยองค์การยูเนสโก ถือเป็นเหตุกราดยิงที่ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่สาธารณรัฐเช็กแยกตัวเป็นรัฐเอกราชในปี 2536

ความเห็นอกเห็นใจหลั่งไหลเข้ามาจากทั่วโลกโดยมีสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส, ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ, ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส, ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน, กษัตริย์ชาร์ลส์แห่งอังกฤษ และบุคคลสำคัญอื่นๆ อีกหลายคนร่วมแสดงความเสียใจ

สาธารณรัฐเช็กเป็นประเทศที่ปลอดภัยที่สุดอันดับที่ 12 ของโลกตามดัชนีสันติภาพโลกปี 2566 และความรุนแรงจากอาวุธปืนถือเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเกิดขึ้น โดยครั้งล่าสุดย้อนไปในปี 2558 ที่ชายคนหนึ่งได้ยิงผู้อื่นจนเสียชีวิต 8 รายในร้านอาหารแห่งหนึ่งทางตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนฆ่าตัวตายหนีความผิด และอีกกรณีในปี 2562 ที่มือปืนรายหนึ่งสังหารคน 7 คนในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งทางตะวันออก และฆ่าตัวตายหนีผิดเช่นกัน.