ชาวสิงคโปร์ร่ำลาลูกแพนด้ายักษ์วัย 2 ขวบ ก่อนกำหนดการส่งกลับคืนไปยังประเทศจีน เพื่อเป็นส่วนร่วมในโครงการเพาะพันธุ์แพนด้า
เล่อเล่อ ลูกแพนด้ายักษ์วัย 2 ขวบที่อุทยานสัตว์ป่าริเวอร์ วันเดอร์สของประเทศสิงคโปร์ ได้รับการจัดพิธีอำลาก่อนถูกส่งกลับประเทศจีน เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม (Photo by Handout / Mandai Wildlife Group / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 13 ธันวาคม 2566 กล่าวว่า เล่อเล่อ แพนด้ายักษ์ตัวแรกที่เกิดในสิงคโปร์ ปรากฏตัวต่อสาธารณะเป็นครั้งสุดท้ายที่อุทยานสัตว์ป่าริเวอร์ วันเดอร์ส ก่อนถูกส่งกลับประเทศจีนตามเงื่อนไข ในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า
มีผู้เยี่ยมชมจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาดูลูกแพนด้ายักษ์ตัวนี้เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเข้าสู่กระบวนการกักกันและเตรียมตัวเดินทางกลับจีน
เล่อเล่อเกิดในปี 2564 โดยการผสมเทียม หลังจากที่เจีย เจีย และไคไค ซึ่งเป็นพ่อแม่ของมัน ไม่สามารถผสมพันธุ์ตามธรรมชาติได้ โดยเจีย เจียซึ่งปัจจุบันอายุ 15 ปี และไคไค อายุ 16 ปี มาถึงสิงคโปร์ตั้งแต่ปี 2555 ภายใต้ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลสิงคโปร์และรัฐบาลปักกิ่งในการให้ยืมตัวเป็นระยะเวลา 10 ปี
ตามเงื่อนไขข้อตกลงยืมตัว ลูกหลานของแพนด้าจะถูกส่งกลับประเทศจีนหลังจากหย่านมและเติบโตได้ด้วยตัวเอง เพื่อเข้าร่วมโครงการเพาะพันธุ์แพนด้าของประเทศ
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการสืบพันธุ์ของแพนด้า ไม่ว่าจะในสวนสัตว์หรือในป่าตามธรรมชาติ เป็นเรื่องยากอย่างมาก เนื่องจากแพนด้ามักไม่มีอารมณ์ที่จะทำกิจกรรมผสมพันธุ์หรือแม้แต่ไม่รู้วิธีการผสมพันธุ์ตามสัญชาตญาณ
เรื่องที่ซับซ้อนยิ่งกว่าคือ ระยะเวลาในการปฏิสนธิมีอย่างจำกัด เนื่องจากแพนด้าเพศเมียจะอยู่ในช่วงติดสัดปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ซึ่งกินเวลาแค่ 24-48 ชั่วโมง
เล่อเล่อ มีกำหนดเดินทางไปยังเฉิงตูในวันที่ 16 มกราคม 2567 โดยจะถูกบรรจุในลังซึ่งสั่งทำพิเศษ บนเครื่องบินขนส่งสินค้าโบอิ้ง 747-400F ของสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส
จีนใช้ "การทูตแพนด้า" มาเป็นเวลานาน โดยมอบสัตว์เหล่านี้ให้เป็นของขวัญแก่ประเทศต่างๆ เพื่อส่งเสริมเป้าหมายด้านนโยบายต่างประเทศของตน
แต่ว่ารัฐบาลปักกิ่งปล่อยแพนด้าให้สวนสัตว์ต่างประเทศยืมเท่านั้น ซึ่งโดยปกติแล้วจะต้องส่งลูกแพนด้ากลับคืนภายในไม่กี่ปีหลังถือกำเนิด
ตามข้อมูลของกลุ่มสิ่งแวดล้อม WWF มีแพนด้ายักษ์ประมาณ 1,860 ตัวที่เหลืออยู่ในป่า และอีกประมาณ 600 ตัวถูกกักขังตามศูนย์แพนด้าและสวนสัตว์ทั่วโลก.