มณฑลชานซีในภาคเหนือของจีนเจอฝนตกหนักส่งผลให้เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างเมื่อสุดสัปดาห์ ทางการต้องสั่งอพยพชาวบ้านมากกว่า 120,000 คน และสั่งปิดเหมืองถ่านหินอย่างน้อย 60 แห่ง เพิ่มความวิตกต่อภาวะขาดแคลนพลังงานของจีน
รายงานเอเอฟพีอ้างข่าวของสื่อทางการจีนเมื่อวันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม ว่าหลายพื้นที่ของมณฑลชานซี ซึ่งเป็นดินแดนชั้นในที่ปกติมีสภาพอากาศแห้ง เกิดฝนตกหนักเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยข่าวซินหัวกล่าวว่า ปริมาณน้ำฝนที่ตกในช่วงเวลา 5 วันของสัปดาห์ที่แล้วมีมากกว่าอัตราเฉลี่ยน้ำฝนทั้งเดือนตุลาคมเกิน 3 เท่า อุทกภัยที่เกิดขึ้นส่งผลให้ประชาชนมากกว่า 1.75 ล้านคนได้รับความเดือดร้อน
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวด้วยว่า มีประชาชนมากกว่า 120,000 คนถูกอพยพอย่างเร่งด่วน หนังสือพิมพ์ชานซีอีฟนิงนิวส์รายงานว่า มีอาคารบ้านเรือน 17,000 หลังพังถล่ม และพื้นที่เกษตรเสียหายประมาณ 1.18 ล้านไร่ เจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดเผยว่ามีผู้เสียชีวิตด้วยหรือไม่
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของชานซีกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า จะมีฝนตกเพิ่มเติมในช่วงหลายวันจากนี้ และขอให้เกษตรกรเร่งเก็บเกี่ยวพืชผลเมื่อสภาพอากาศอำนวย.
รัฐบาลท้องถิ่นชานซียังมีคำสั่งให้เหมืองถ่านหินใช้มาตรการป้องกันน้ำท่วมและปฏิบัติการตามแผนฉุกเฉินทันทีในกรณีที่เกิดอันตรายร้ายแรง มณฑลนี้เป็นหนึ่งในแหล่งผลิตถ่านหินสำคัญของจีน แต่น้ำท่วมเมื่อสุดสัปดาห์ทำให้ทางการสั่งปิดเหมืองชั่วคราวอย่างน้อย 60 แห่ง แม้ว่าขณะนี้จีนจะกำลังประสบปัญหาพลังงานขาดแคลนที่กระทบต่อภาคอุตสาหกรรมอยู่ก็ตาม
ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ รัฐบาลปักกิ่งเพิ่งมีคำสั่งให้เหมืองถ่านหินเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อให้มั่นใจว่าอุปทานจะเพียงพอ ทั้งยังประกาศว่าจะอนุญาตให้ขึ้นค่าไฟฟ้าเพื่อกระตุ้นการผลิตไฟฟ้าด้วย ทำให้นักวิเคราะห์หลายคนเตือนว่าอาจก่อความวิตกเรื่องภาวะเงินเฟ้อได้
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกรกฎาคม มณฑลเหอหนานในภาคกลางของจีนก็ประสบอุทกภัยรุนแรง ที่ทำให้มีคนเสียชีวิตมากกว่า 300 คน และเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับการจัดหาพลังงานรอรับฤดูหนาว.