อิสราเอลเดินหน้าโจมตีเป้าหมายในฉนวนกาซาตลอดช่วงสุดสัปดาห์ ขณะที่นานาชาติกังวลการเสียชีวิตของพลเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นในวันที่สามหลังการพักรบแลกตัวประกัน
กองทหารและยานพาหนะของอิสราเอลตั้งอยู่ใกล้ชายแดนฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ท่ามกลางการสู้รบอย่างต่อเนื่องระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาส (Photo by JACK GUEZ / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม 2566 กล่าวว่า อิสราเอลยังคงเปิดฉากโจมตีกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่สาม หลังสิ้นสุดข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว
ตามรายงานของกระทรวงสาธารณสุขที่ดำเนินการโดยกลุ่มฮามาส มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 15,500 คนในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกปิดล้อม ตลอดช่วงเวลากว่า 8 สัปดาห์ของการสู้รบที่แสนสาหัสสำหรับพลเรือน
กองทัพอิสราเอลระดมโจมตีทั้งทางอากาศและทางภาคพื้นบริเวณชายแดนทางตอนเหนือของฉนวนกาซา ทำให้เกิดควันและฝุ่นหนาทึบเต็มท้องฟ้า
กองทัพฯรายงานว่า มีการยิงจรวดตอบโต้ 17 ครั้งจากฉนวนกาซาเข้าสู่ดินแดนอิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์ แต่ส่วนใหญ่ถูกสกัดกั้นไว้ได้ และสร้างความเสียหายทางวัตถุเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม อิสราเอลก็สูญเสียทหาร 2 นายในการสู้รบครั้งแรกนับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงสิ้นสุดลงเมื่อวันศุกร์
สงครามที่ปะทุขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ได้สังหารผู้คนในอิสราเอลไปประมาณ 1,200 ราย ขณะเดียวกันก็มีการจับตัวประกันไปประมาณ 240 คน
ข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวที่ทำให้เกิดการพักรบเป็นเวลา 7 วัน นำไปสู่การปล่อยตัวตัวประกันชาวอิสราเอล 80 คนเพื่อแลกกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ 240 คน โดยมีกาตาร์เป็นผู้ไกล่เกลี่ยที่ได้รับการสนับสนุนจากอียิปต์และสหรัฐอเมริกา ขณะที่มีตัวประกันชาวต่างชาติได้รับการปล่อยตัวนอกเหนือข้อตกลงดังกล่าวอีกกว่า 24 ราย
จากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศมากกว่า 10,000 ครั้งนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น กองทัพอิสราเอลได้ค้นพบปล่องอุโมงค์มากกว่า 800 แห่งซึ่งอาจเป็นทางไปสู่แหล่งกบดานของกลุ่มฮามาส และได้ทำลายปล่องเหล่านั้นไปแล้วราว 500 แห่ง โดยส่วนใหญ่เป็นบริเวณใกล้เคียงหรืออยู่ภายในอาคารพลเรือน เช่น โรงเรียนและมัสยิด
ล่าสุด กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า การโจมตีด้วยโดรนสามารถกำจัดนักรบฮามาสได้ 5 คน ขณะที่เครื่องบินขับไล่และเฮลิคอปเตอร์ยังได้โจมตีปล่องอุโมงค์, ศูนย์บัญชาการ และสถานที่เก็บอาวุธ เช่นเดียวกับกองทัพเรือที่โจมตีเรือและอาวุธของกลุ่มฮามาส
นอกจากนี้ ยังมีการสู้รบปะทุขึ้นบริเวณชายแดนทางตอนเหนือของอิสราเอลติดกับเลบานอนอีกด้วย
กองทัพอิสราเอลกล่าวว่าได้ยิงปืนใหญ่ตอบโต้การยิงข้ามพรมแดนจากเลบานอน และเครื่องบินรบของอิสราเอลก็โจมตีเป้าหมายจำนวนหนึ่งที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มฮิซบุลเลาะห์
พันธมิตรของอิสราเอลอย่างสหรัฐฯ ซึ่งให้ความช่วยเหลือทางการทหารมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี ได้เรียกร้องให้มีการคุ้มครองพลเรือนในฉนวนกาซาเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเริ่มมีจำนวนชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์ถูกสังหารมากเกินไปแล้ว
แต่รัฐบาลอิสราเอลโต้ว่า กลุ่มฮามาสต่างหากที่ต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อการสูญเสียทุกชีวิตในสงครามครั้งนี้เพราะเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อน
สหประชาชาติระบุว่า ประชาชนราว 1.8 ล้านคนในฉนวนกาซา หรือประมาณ 75% ของประชากรทั้งหมด ต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น โดยหลายคนต้องอยู่ในศูนย์พักพิงที่แออัดและสกปรก ทั้งยังขาดแคลนอาหาร, น้ำ และสิ่งจำเป็นอื่นๆต่อการดำรงชีวิตอย่างไร้ความช่วยเหลือที่เพียงพอ
ด้านสถานการณ์ตัวประกันอีก 137 คนที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในฉนวนกาซายังไม่มีความคืบหน้าเรื่องการปล่อยตัว หลังกลุ่มฮามาสยื่นข้อเสนอแลกกับการหยุดยิงถาวรจากฝั่งอิสราเอลเท่านั้น แต่อิสราเอลไม่ตอบรับ โดยนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูยืนยันว่า สงครามจะดำเนินต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายทั้งหมด และหนึ่งในนั้นคือการช่วยเหลือตัวประกันทุกคน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มฮามาสกล่าวหาอิสราเอลโจมตีโรงพยาบาลทางตอนเหนือของฉนวนกาซา
กลุ่มฮามาสกล่าวหาอิสราเอลว่าโจมตีทางอากาศที่โรงพยาบาลแห่งสุดท้ายในฉนวนกาซา กองทัพอิสราเอลยังคง “ใช้ระเบิ