
ด้วยการจับตัวประกันเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม กลุ่มฮามาสจึงสร้างอำนาจที่แข็งแกร่งเหนือรัฐบาลอิสราเอล ส่วนหนึ่งของข้อตกลงหยุดยิงที่ตกลงกันไว้ ตอนนี้กลุ่มฮามาสยอมปล่อยตัวประกันเฉพาะในกรณีที่ชาวปาเลสไตน์ที่ถูกคุมขังได้รับการปล่อยตัวเป็นการตอบแทนเท่านั้น จนถึงขณะนี้ชาวปาเลสไตน์จำนวน 177 คนได้รับการปล่อยตัวจากการคุมขังของอิสราเอลแล้ว เพื่อแลกกับการปล่อยตัวประกันของกลุ่มฮามาส 58 คน
แต่ชาวปาเลสไตน์เหล่านั้นเป็นใครที่รัฐบาลอิสราเอลยอมปล่อยตัว? และอัตราส่วนของนักโทษประมาณ 3 คนต่อตัวประกัน 1 คนจะยังคงดำเนินต่อไปหรือไม่?
นักโทษชาวปาเลสไตน์ที่ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระนั้น มีรายละเอียดให้ติดตามได้จากเว็บไซต์ของรัฐบาลอิสราเอล ในนั้นมีการเผยแพร่รายชื่อ 300 ชื่อที่มีโอกาสได้รับการปล่อยตัว รายชื่อส่วนใหญ่ประกอบด้วยผู้ชายอายุต่ำกว่า 18 ปี ในจำนวนนั้นอายุน้อยที่สุดคือ 14 ปี นอกจากนี้ยังมีผู้หญิง 33 คนในรายชื่อ บางคนสูงวัย คนที่อายุมากที่สุดคือ 59 ปี
ชาวปาเลสไตน์ที่ถูกควบคุมตัวเป็นนักโทษส่วนใหญ่เพิ่งถูกจับกุม แต่ยังไม่ถูกพิพากษาลงโทษ หลายกรณีถูกตั้งข้อหาค่อนข้างคลุมเครือ อย่างเช่นก่อความไม่สงบในพื้นที่ควบคุม หรือบางคนถูกจับกุมเพียงเพราะขว้างปาก้อนหิน แต่บางคนก็มีข้อหาที่รุนแรงกว่านั้น เช่น การทำร้ายร่างกายสาหัส ผลิตอุปกรณ์ระเบิด หรือลอบวางเพลิง มีนักโทษสองคนเกี่ยวข้องกับการพยายามฆ่าด้วยอาวุธมีด เป็นต้น
ในอดีตเคยมีข้อตกลงการแลกตัวประกันมาแล้ว และเคยเป็นประสบการณ์ที่ขมขื่นเป็นพิเศษสำหรับอิสราเอล คือ การแลกเปลี่ยนตัว กิลาด ชาลิต-ทหารอิสราเอล กับนักโทษชาวปาเลสไตน์จำนวนมากกว่า 1,000 คน ชาลิตถูกกลุ่มฮามาสลักพาตัวไปในเดือนมิถุนายน 2006 และถูกนำตัวไปยังฉนวนกาซา เขาถูกควบคุมตัวอยู่ที่นั่นนานถึงห้าปี จนกระทั่งได้รับการปล่อยตัวในเดือนตุลาคม 2011 เพื่อแลกกับชาวปาเลสไตน์ 1,027 คน
ผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อการร้ายมองว่าการแลกตัวประกันครั้งแรกถือเป็นมาตรการสร้างความมั่นใจระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอล แต่การเจรจาอาจจะยากขึ้นสำหรับตัวประกันแต่ละคน เพราะกลุ่มฮามาสจะเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์เพิ่มมากขึ้นตามจำนวนตัวประกัน และอาชญากรรมของนักโทษก็จะมีความร้ายแรงมากขึ้นเช่นกัน ฮามาสจะเรียกร้องราคาที่สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการปล่อยตัวประกันที่เป็นเครือญาติหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับกองทัพอิสราเอล
ผู้เชี่ยวชาญยังเชื่อว่าการเจรจาที่กำลังดำเนินอยู่นั้นเป็นแผนของฮามาส กลุ่มผู้ก่อการร้ายใช้การจับตัวประกันเป็นข้อต่อรอง ข่มขู่ เพื่อกลับไปสู่โต๊ะเจรจา นอกจากนี้กลุ่มฮามาสยังใช้การปล่อยตัวประกันแลกกับนักโทษในการแย่งชิงอำนาจกับกลุ่มปาเลสไตน์อื่นๆ เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในฐานะผู้ดูแลคุ้มครอง
สิ่งนี้สอดคล้องกับวิธีการรับชาวปาเลสไตน์ที่ได้รับการปล่อยตัวกลับสู่ภูมิภาคบ้านเกิดของพวกเขา – นักโทษมากกว่าสามสิบคนถูกส่งตัวกลับไปยังเวสต์แบงก์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ชาวเมืองหลายร้อยคนให้การต้อนรับชายหนุ่มทั้ง 39 คนเหมือนวีรบุรุษในใจกลางเมืองรามัลเลาะห์ ฝูงชนพากันห้อมล้อมและโอบอุ้มชายสวมชุดนักโทษสีเทาเหล่านั้นขึ้นบ่า พร้อมทั้งโบกธงสีเขียวของกลุ่มฮามาสแสดงความยินดีปรีดา
ในขณะเดียวกันยังมีคนอีก 184 คนถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ในฉนวนกาซา.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กองทัพอิสราเอลโจมตีที่มั่นทางทหารทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย
กองทัพอิสราเอลแถลงว่าได้โจมตีที่มั่นทางทหารทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียเมื่อวันจันทร์ กองกำลังเคลื่อนที่ติดอาวุธทำการโจมตี “สถาน
มท.1 ตรวจถนนคนเดิน สร้างความเชื่อมั่นเมืองน่าเที่ยว ขอให้เปิดใจไม่มีใครยึดเมืองปาย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ลงพื้นที่ “ถนนคนเดิน”เพื่อตรวจเยี่ยมการดูแลนักท่องเที่ยวและการดำเนินกิจการในพื้นที่
มท.1 ลั่นไม่มีใครยึดครองประเทศไทยได้ แจงดราม่า ‘บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์’
รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ลงพื้นที่ปาย ยืนยันนักท่องเที่ยวอิสราเอลไม่กระทบความมั่นคง ย้ำ “โบสถ์ชาบัด” จดทะเบียนถูกต้อง พร้อมกำชับเข้มดูแลพฤติกรรมท่องเที่ยว ห้ามละเมิดวัฒนธรรมไทย