อดีตผู้นำ นศ.ฝ่ายซ้ายวัย 35 คว่ำขวาจัด คว้าชัยเลือกตั้ง ปธน.ชิลี

กาเบรียล โบริช อดีตผู้นำนักศึกษาฝ่ายซ้ายหัวก้าวหน้าวัย 35 ปี ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบชิงดำเมื่อวันอาทิตย์ โดยสามารถคว่ำคู่แข่งหัวขวาจัดได้อย่างขาดลอยเกินความคาดหมาย คนรุ่นใหม่รวมถึงกลุ่มเพศทางเลือกออกมาฉลองอย่างคึกคัก

กาเบรียล โบริช ฉลองชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีชิลี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 ธ.ค. 2564 (Getty Images)

เอเอฟพีรายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม 2564 ว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของชิลีรอบชี้ขาดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา เป็นการเลือกตั้งที่แบ่งขั้วมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของชิลี นับแต่สิ้นยุคเผด็จการออกุสโต ปิโนเชต์ เมื่อ 31 ปีก่อน ซึ่งชาวชิลีเลือกผู้นำที่เป็นสายกลางทุกคนมานับแต่นั้น

ผลการนับคะแนนเผยว่า โบริชได้คะแนนสนับสนุนเกือบ 56% ขณะที่โฮเซ อันโตนีโอ กาสต์ คู่แข่งวัย 55 ปี ซึ่งมีแนวคิดขวาจัด ได้คะแนน 44% เป็นคะแนนทิ้งห่างอย่างมาก ที่ทำให้กาสต์ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้แม้การนับคะแนนยังไม่เสร็จสมบูรณ์

ชาวชิลีนับแสนคนพากันออกมาเฉลิมฉลองในกรุงซันติอาโกและอีกหลายเมืองหลังจากกาสต์ประกาศยอมแพ้ ผู้ขับขี่ยวดยานพากันบีบแตร ชูป้ายสนับสนุนโบริช โบกธงสีรุ้งสัญลักษณ์ของเพศทางเลือก LGBTQ และร้องตะโกน "ชิลีจงเจริญ" บนท้องฟ้ามีดอกไม้ไฟโชติช่วง

โบริช ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มพันธมิตรที่รวมถึงพรรคคอมมิวนิสต์ชิลี และถูกฝ่ายตรงข้ามเรียกว่า "คอมมิวนิสต์" ให้คำมั่นระหว่างการหาเสียงว่า จะทำให้ชิลีเป็น "รัฐสวัสดิการ", จะขึ้นภาษี และเพิ่มการใช้จ่ายด้านสังคมในประเทศลาตินอเมริกาแห่งนี้ ซึ่งมีความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยคนกับคนจนมากที่สุดชาติหนึ่งในโลก

นักการเมืองหนุ่มซึ่งจะเป็นประธานาธิบดีที่อายุน้อยที่สุดของชิลีเมื่อสาบานตนรับตำแหน่งในเดือนมีนาคมปีหน้า กล่าวปราศรัยอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับแต่ชนะเลือกตั้งในวันอาทิตย์ว่า เขาจะ "ขยายสิทธิทางสังคม" ในชิลี แต่จะทำด้วย "ความรับผิดชอบทางการคลัง"

กาสต์แสดงความยินดีกับโบริช ในชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ของเขา โดยกล่าวว่า นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โบริชคือประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกจากชิลี และเขาสมควรได้รับความเคารพและความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์จากพวกเราทุกคน ชิลีต้องมาก่อนเสมอ

ด้านประธานาธิบดีเซบัสเตียน ปินเยรา ซึ่งกำลังจะพ้นจากตำแหน่งด้วยคะแนนนิยมต่ำมาก กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ก่อนที่จะรู้ผลคะแนนว่า ชิลีกำลังอยู่ในสภาพแวดล้อมของความขัดแย้ง, การเผชิญหน้า, การแบ่งขั้วมากเกินไป และเรียกร้องผู้นำคนใหม่ว่า ต้องไม่ลืมว่า "เขาจะเป็นประธานาธิบดีของชาวชิลีทุกคน ไม่ใช่แค่ของผู้ที่สนับสนุนเขาเท่านั้น"

โบริช อดีตแกนนำการประท้วงของนักศึกษาเมื่อปี 2554 เขียนจดหมายเปิดผนึกเมื่อวันเสาร์ รับปากว่า รัฐบาลของเขาจะทำการเปลี่ยนแปลงตามความต้องการที่ชาวชิลีเคยเรียกร้องไว้ในการลุกฮือทางสังคมเมื่อปี 2562 การชุมนุมประท้วงนานหลายเดือนในปีนั้น ซึ่งเกิดความรุนแรงนองเลือดหลายครั้ง นำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แทนที่ฉบับเก่าที่ใช้ในยุคของปิโนเชต์ และเตรียมส่งให้ชาวชิลีลงประชามติปีหน้า

กาสต์เป็นผู้แก้ต่างให้ปิโนเชต์ และแนวทางเศรษฐกิจแบบเสรีนิยมใหม่ของเขา แม้ได้รับการยกย่องว่าสร้างความมั่งคั่งแก่ชิลี แต่ก็ถูกกล่าวโทษว่าสร้างความเหลื่อมล้ำทางสังคมอย่างหยั่งรากลึก เขาคัดค้านการสมรสของคนเพศเดียวกัน, ค้านการคุมกำเนิดและการทำแท้ง ทั้งยังเคยขู่ว่าจะปิดกระทรวงกิจการสตรี แต่ภายหลังต้องยอมเปลี่ยนใจ

ผลสำรวจชี้ว่า มีชาวชิลีออกมาใช้สิทธิมากกว่า 55% จากผู้มีสิทธิ 15 ล้านคน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนับแต่ชิลีเปิดให้การใช้สิทธิเลือกตั้งกระทำโดยความสมัครใจเมื่อปี 2555 โบริชชนะด้วยผลต่างคะแนนเกือบ 1 ล้านคะแนน จากผู้ใช้สิทธิ 8.3 ล้านคน นักวิเคราะห์ชี้ว่า เป็นเพราะมีคนหนุ่มสาวออกมาใช้สิทธิกันมากขึ้น

เคลาเดีย เฮส นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยชิลี กล่าวกับเอเอฟพีว่า เห็นได้ชัดว่าคนหนุ่มสาวออกมาใช้สิทธิกันมากขึ้น ชัดเจนว่า โบริชสามารถระดมกลุ่มคนหนุ่มสาว ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยากต่อการดึงออกมาใช้สิทธิได้ นอกจากนี้ สุนทรพจน์ของกาสต์ที่ต่อต้านสิทธิ, ต่อต้านผู้หญิง และต่อต้านเกย์ ยังช่วยดึงให้กลุ่มคนหนุ่มสาวออกมา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง